ส.ส.ร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ธ.ค.67) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ภายหลังจากวานนี้ (17 ธ.ค.67) ที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) เสียงข้างมาก ลงมติเห็นด้วยตามที่กรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมฯ แก้ไขใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ทำประชามติ ด้วยคะแนน 153 ต่อ 24 เสียง และงดออกเสียง 13 เสียง ทั้งนี้ เกณฑ์ผ่านประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ผ่าน 2 ชั้น หรือ Double majority คือต้องมีผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ใช้เสียง และมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามติ ต้องจับตาขั้นตอนในวันนี้ ที่ประชุมสภาฯ จะเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ ตามที่ กมธ.ร่วมฯ แก้ไขหรือไม่ หาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ลงมติแย้งกับ สว. จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติถูกยับยั้ง 180 วัน ขณะเดียวกัน ในการประชุม สส. พรรคเพื่อไทย ประจำสัปดาห์ ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธาน สส. พรรค ทำหน้าที่ประชุม เมื่อวานนี้ ได้กำชับ สส. ให้เข้าร่วมประชุมเพื่อลงมติโดยพร้อมเพรียง “ห้ามลา ห้ามขาด” นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร จะยึดมติครั้งแรกที่ลงไป คือ เสียงข้างมากชั้นเดียว ตามหลักการเดิมของสภาฯ ที่ได้ลงมติไปแล้ว แม้ สว.จะแก้ไขอย่างไรก็จะยืนหลักการเดิม ซึ่งท่าทีที่ต่างกันของ 2 สภา ทำให้ร่างกฎหมายต้องพักไป 180 วัน ก่อนการประกาศก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่อยากจะทำให้ง่ายขึ้น และเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด และที่ยืนหลักการเช่นนี้ ชี้ให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญตามที่ได้หาเสียงไว้ต่อประชาชนและครั้งนี้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้สำเร็จ แต่เมื่อติดขัดอย่างนี้ก็ต้องไปดูว่าหลัง 180 วัน จะสามารถตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ได้หรือไม่ ถ้าตั้งได้ก็จะเป็นการดี เพื่อจะให้พิจารณาในสมัยหน้าต่อไป รายงานข่าวระบุว่า จากการเช็กเสียงพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนใหญ่จะโหวตเห็นชอบตามหลักการเสียงข้างมากชั้นเดียว มีเพียงพรรคภูมิใจไทย ที่จะงดออกเสียง ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาชนมีท่าทีที่จะโหวตไปในทิศทางเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลคือเสียงข้างมากชั้นเดียว