หวย12 นักษัตร

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงถึงกรณีที่นักวิชาการ นักการเมือง องค์กรภาคสังคม และผลโพลล์ของประชาชน ออกมาคัดค้านแนวทางให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดทำสลากภาพ 12 นักษัตร ขายผ่านระบบออนไลน์ เพราะเกรงเป็นการมอมเมาสังคม และไม่สามารถแก้ปัญหาหวยใต้ดินได้จริง ว่า ต้องขอโทษต่อประชาชนที่ทำให้เกิดความสับสนต่อการทำสลากภาพ 12 นักษัตร เพราะในความจริง การที่คณะกรรมการสลากฯ มีมติเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นการให้ความเห็นชอบในหลักการ เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ที่ให้ศึกษาดูว่าควรทำหรือไม่ ไม่ได้บอกว่าต้องทำแน่ หรือต้องออกวันนี้พรุ่งนี้ เพราะตามขั้นตอนต่อจากนี้ ยังมีกระบวนการอีกหลายอย่าง ยังไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง หรือ รัฐบาลที่ยังไม่ได้รับรู้หรือเห็นชอบการดำเนินการดังกล่าว "ผมขอโทษที่ทำให้เรื่องสลากรูปภาพ 12 นักษัตร เรื่องสลากออนไลน์นำไปสู่ความสับสน ว่าจะออกเมื่อไหร่ ออกอย่างไร เป็นการมอมเมาประชาชน รวมถึงบานปลายไปจนถึงว่ารัฐบาลถังแตกจึงต้องทำ ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ยังไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะทำแน่นอน ทุกอย่างเป็นเพียงแนวคิด เพียงแต่เราอาจคิดเสียงดังไปหน่อย ดังนั้น ที่มีข่าวว่าจะไปลงรายชื่อคัดค้าน ผมว่ายังไม่ต้อง ยืนยันนี่ยังเป็นแค่แนวคิด ที่สำคัญหากผลศึกษาออกมาอย่างไร สำนักงานสลากฯ ก็พร้อมเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ทุกอย่างเป็นตุ๊กตาที่ตั้งขึ้นมาทดลองว่ามีความเป็นได้ทางกฎหมาย เหมาะกับสังคมหรือไม่ ยังเปลี่ยนแปลงได้" นายพชร กล่าว พร้อมทั้งชี้แจงด้วยว่า เรื่องการทำสลากนักษัตรออนไลน์ เป็นเรื่องดำเนินการภายในของสำนักงานสลากฯ ซึ่งเริ่มศึกษามาเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว และนำมาดูจริงจังหลังกฎหมายใหม่บังคับใช้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีความจำเป็น ที่ต้องออกสลากรูปแบบใหม่ขายผ่านออนไลน์ รองรับการเปลี่ยนแปลง ที่สลากใบอาจขายไม่ได้ในอนาคต เพราะคนไทยไปซื้อหวยออนไลน์ต่างประเทศกันหมด โดยจะรวบรวมความเห็น ผลกระทบในทุกมิติ และหากเห็นว่าสมบูรณ์ ครบถ้วนดีแล้ว จะเสนอขอความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมถึง เปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ถึงจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาให้ความเห็นได้ จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะเริ่มทำจริงได้เมื่อไร อีกทั้ง ขอยืนยันเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล หรือเป็นนโยบายเร่งด่วนอะไร ฉะนั้นประเด็นที่พูดกันว่า รัฐบาลจะ ถังแตก จึงไม่เกี่ยวข้อง เพราะปัจจุบัน สำงานสลากฯนำส่งรายได้จากขายลอตเตอรี่ เข้ารัฐปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท เป็นแค่เศษเสี้ยวของงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ปัจจุบันมีถึง 3.2 ล้านล้านบาท ฉะนั้นเป็นคนละเรื่องกัน นายพชรยังกล่าวขอบคุณข้อเสนอ แนะที่ออกมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคำติมากกว่าคำชม แต่ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่ช่วยเตือนว่า การคิดออกอะไรใหม่ๆ จะทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้น จึงให้คณะทำงานศึกษาการออกผลิตภัณฑ์สลากใหม่ รวบรวมความเห็นทั้งหมดไปพิจารณาเชิงกฎหมายว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.การพนัน หรือการจัดสรรเงินรางวัลเงินรายได้ถูกต้องหรือไม่ รวมถึง ผลกระทบต่อผู้ค้าผู้มีส่วนได้เสีย ที่สำคัญ มิติทางสังคมที่ผ่านมาหากศึกษาไม่พอ ก็ได้ให้คณะทำงานศึกษาผลกระทบทางสังคมให้ชัดเจนที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบสังคมในวงกว้างและระยะยาว ส่วนสาเหตุว่าทำไมต้องทำสลากแบบใหม่ขึ้นมา ไม่ทำสลากใบหรือลอตเตอรี่ออกมาขายออนไลน์แทนนั้น นายพชรกล่าวว่า เนื่องจากสำนักงานสลากฯไม่ต้องการให้ไปกระทบโครงสร้างระบบสลากกินแบ่งเดิม หากทำไปแล้วอาจมีผลกระทบทั้งผู้ค้า โดยเฉพาะ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ซื้อ จึงคิดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อไม่ได้กระทบกลุ่มคนดังกล่าว ส่วนกรณีคำถามว่า หากมีการออกสลาก 12 นักษัตรแล้ว จะนำไปสู่สลากรูปแบบใหม่ๆ หรือไม่นั้น ทุกวันนี้ หากเปิดดูมือถือ จะพบการพนันออนไลน์รูปแบบใหม่ เกิดขึ้นมากมาย มีทุกรูปแบบ ทั้งที่เป็นสลากและอื่นๆ แถมหวยใต้ดินก็มีขายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียกันแล้ว ซึ่งไม่อยากให้เกิดภาพการพนันออนไลน์ เงินไหลออกนอกประเทศ จึงต้องคิดว่าจะทำอะไรให้ถูกต้องได้บ้าง แต่ไม่ได้บอกว่าการพนันออนไลน์จะหมดไป แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้นำสิ่งต่างๆ ขึ้นมาบนดิน