หุ้นคริปโตเคอร์เรนซี

ผู้สื่อข่าวยรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ. 67) ราคาหุ้นคริปโตเคอร์เรนซีปรับตัวขึ้นต่อตอบรับราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 50,000 ดอลลาร์ในวันนี้ นำโดย บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ณ เวลา 15:38 น.อยู่ที่ระดับ 89.75 บาท บวก 2.75 บาท หรือ 3.16% สูงสุดที่ระดับ 91.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 89.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 481.41 ล้านบาท บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK ณ เวลา 15:40 น. อยู่ที่ระดับ 0.56 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 3.70% สูงสุดที่ระดับ 0.57 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.55 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46.36 ล้านบาท บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ณ เวลา 15:41 น. อยู่ที่ระดับ 1.20 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 0.84% สูงสุดที่ระดับ 1.23 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.19 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77.08 ล้านบาท บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ณ เวลา 15:49 น. อยู่ที่ระดับ 3.24 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.62% สูงสุดที่ระดับ 3.32 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 87.60 ล้านบาท บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า Crypto Currency : ราคา Bitcoin ยังเป็นขาขึ้น ปรับเพิ่มติดต่อกัน 7 วันติดและทะลุ High ในรอบ 1 เดือน รวมถึงยืน 5.0 หมื่นเหรียญ แรงหนุนราคา ตลาดยังเก็งประเด็น Bitcoin Halving คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.67 โดยรวมเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยง ZIGA, BROOK, JTS แต่เชิงกลยุทธ์มองเพียงเก็งกำไรสั้นๆ เน้นวาง Stop Loss โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(13 ก.พ.67) บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุระดับ 50,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,800,000 บาท ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในการซื้อขาย ขณะที่กระแสเงินทุนยังคงหลั่งไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF ของสหรัฐ โดย ณ เวลา 15.50 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 4.19% สู่ระดับ 50,140.00 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2564 ด้านสัญญาณทางเทคนิคของ Fibonacci และ Stochastic RSI บ่งชี้ว่า หากบิตคอยน์พุ่งทะลุ 50,000 ดอลลาร์ ก็จะทะยานขึ้นแตะระดับ 57,000 ดอลลาร์ภายในไม่กี่สัปดาห์ โดยเม็ดเงินยังคงไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระแสเงินทุนราว 1.1 พันล้านดอลลาร์ได้หลั่งไหลเข้าสู่ Spot Bitcoin ETF และหากนับตั้งแต่เปิดตัวกองทุนดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ก็พบว่ามีเม็ดเงินไหลเข้ามากถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์ ด้านธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดการณ์ว่า การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF จะดึงดูดให้นักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี และจะทำให้มีเม็ดเงินราว 50,000-100,000 ล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่บิตคอยน์ในปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้บิตคอยน์พุ่งแตะระดับ 200,000 ดอลลาร์ภายในปี 2568 หากคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง บิตคอยน์จะทำลายสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ที่ระดับ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าบิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นต่อไป โดยได้ปัจจัยบวกจากปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. รวมทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 150% ในปีที่แล้ว โดยให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเพียง 24%