หุ้นต่างชาติขาย

นักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค-31 ส.ค.2565 ที่มียอดซื้อสุทธิ 1.6 แสนล้านบาท ถือเป็นตัวเลขการซื้อที่ทยอยสะสมในช่วงระหว่างปีที่มากที่สุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา เม็ดเงินต่างชาติ (Fund flow) ที่ไหลเข้ามานั้น เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพใหญ่ในการฟื้นตัวของประเทศ กระแสเงินสดเหล่านี้เข้ามาอยู่ในหุ้นบิ๊กแคปที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม SET50 ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีของตลาดหุ้นไทย แต่ความน่ายินดีดังกล่าวถือเป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะการส่งสัญญาณที่มียอดเทขายสุทธิ ทันทีที่เริ่มต้นเดือนกันยายน โดยช่วง 1-2 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่างชาติเริ่มทยอยขาย โดยมียอดสุทธิ 2 วันทำการ จำนวน 5,453 ล้านบาท สัญญาณการขายทันทีที่เริ่มต้นเดือนใหม่ ถือเป็นความเสี่ยงที่อาจจะเป็นสโนว์บอลมากดดันตลาดหุ้นไทย เพราะที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยขึ้นมาได้เพราะแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ซื้ออนาคต ซึ่งในระหว่างทางที่ซื้ออนาคตและความคาดหวังที่เคยมีก่อนหน้านี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้ อย่างน้อยๆ ในเดือนก.ย.นี้ แรงขายที่มีออกมา 2 วันทำการ ย่อมมีผลกระทบต่อหุ้นที่ต่างชาติซื้อขึ้นมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าต่างชาติจะเทขายหุ้นไทย (ระยะสั้น) หลังจากที่มีกำไร จากการทยอยซื้อ ตั้งแต่ช่วงดัชนี 1,517 จุด (15 ก.ค.) มาวันนี้ 1,620 จุด +103 จุด ฉะนั้น “ความเสี่ยงของการลงทุนตอนนี้ หากต่างชาติ ยังทยอยเทขายหุ้นต่อเนื่องอีกในสัปดาห์นี้ ข้อควรระวัง คือ หุ้นที่ต่างชาติซื้อเยอะๆ นั่นเอง” สำหรับรายชื่อหุ้นที่ต่างชาติซื้อ-ขายสุทธิ จะขอแบ่งออกเป็น 3 ระยะช่วงเวลา คือ รายชื่อหุ้น 10 อันดับแรกที่ “ซื้อ” ตั้งแต่ 1 ม.ค.-2 ก.ย.2565 รายชื่อหุ้น 10 อันดับแรกที่ “ซื้อ” ตั้งแต่ 1 ส.ค.-31 ส.ค.2565 รายชื่อหุ้น 10 อันดับแรกที่ “ขาย” ตั้งแต่ 1-2 ก.ย.2565 รายชื่อ 10 หุ้นอันดับแรกที่ NVDR ซื้อสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-2 ก.ย.65 มีดังนี้ หุ้น PTTEP, BDMS, BH, AOT, KBANK, BANPU, TOP, EA, CPALL และ ADVANC รายชื่อ 10 หุ้นอันดับแรกที่ NVDR ซื้อสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1-31 ส.ค.65 มีดังนี้ หุ้น BH, BANPU, KBANK, PTT, TOP, DELTA, BDMS, IVL, TRUE และ KTB . รายชื่อ 10 หุ้นอันดับแรกที่ NVDR ขายสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1-2 ก.ย.65 มีดังนี้ หุ้น BDMS, PTT, SCC, SCB, ADVANC, KBANK, CPALL, MTC, PTTGC และ BLA อย่างไรก็ตาม แรงขายของต่างชาติที่ออกมา ในช่วงนี้อาจจะเป็นแรงขายระยะสั้นก็เป็นได้ ตราบใดที่มุมมองของต่างชาติต่อตลาดหุ้นยังไม่เปลี่ยน คงเป็นเพียงแค่การปรับพอร์ตระยะสั้นเท่านั้น