หุ้นยานยนต์

เปิด 2 หุ้นตัวท็อปกลุ่มยานยนต์ สอยก่อน Q2 รับแนวโน้มยอดผลิตโต ชู P/E ต่ำกว่ากลุ่ม-ตลาด แถมอัพไซด์สูง กูรู 3 สำนักเชียร์ซื้อสนั่น ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ เปิดเผยว่าจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน มี.ค. ที่ 51.5 เพิ่มขึ้นจาก 48.2 ในเดือนก.พ. ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มยานยนต์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ รวมถึงกลุ่มปิโตรเคมีและพลาสติก ทั้งนี้ ตัวเลขอุตสาหกรรมรถยนต์เดือน มี.ค. แบ่งเป็น ยอดผลิตรถยนต์สามารถทำสถิติสูงสุดรอบ 30 เดือน สู่ระดับ 192,811 คัน เพิ่มขึ้น 16% จากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน แต่ ยอดส่งออก ติดลบจากปีก่อนเหลือ 109,334 คัน เพิ่มขึ้น 4% จากเดือนก่อน แต่ลดลง 14% จากปีก่อน ตลาดรถยนต์ในประเทศติดลบเหลือ 72,404 คัน เพิ่มขึ้น 27% จากเดือนก่อนแต่ลดลง 2% จากปีก่อน ตัวเลขผลิตทำสถิติสูงสุดรอบ 30 เดือน แต่ตัวเลขยอดขายในประเทศและส่งออกติดลบ จากผู้ผลิตมีการผลิตสต็อกไว้รองรับการหยุดผลิตยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สภาอุตสาหกรรม ประเมินแนวโน้มยอดผลิตรถยนต์ปี 2559 จะเติบโตเล็กน้อย 5% จากปีก่อน สู่ระดับ 2 ล้านคัน ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ยังคงเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ขยายตัว 5% เนื่องจากขณะนี้เริ่มเห็นเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวชัดเจนแล้ว ทั้งด้านการท่องเที่ยว การลงทุน และการส่งออกที่แม้ยังมีปัจจัยภายนอกประเทศที่ควบคุมไม่ได้ ขณะเดียวกันนางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า แนวโน้มในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะมีคำขอรับส่งเสริมการลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้จะมีคำขอภายใต้นโยบายคลัสเตอร์ไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางอากาศยาน ระบบอัตโนมัติ สิ่งทอ เป็นต้น นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินยอดผลิตรถยนต์ในปี 2559 เท่ากับ 2 ล้านคัน เติบโตจากปี 2558 เล็กน้อยที่ 5% แบ่งเป็นขายในประเทศ 7.5-7.8 แสนคัน ต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย -2% และส่งออก 1.22-1.25 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย 4% สำหรับประเมินยอดผลิตรถยนต์ในปี 2559 เท่ากับ 1.9 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2558 แบ่งเป็น ยอดขายในประเทศ 7.2 แสนคัน ลดลง 10% จากปีก่อน และ ส่งออก 1.2 ล้านคัน ทรงตัวจากปีก่อน ทั้งนี้คาดผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ในปี 2559 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น พร้อมให้น้ำหนักการลงทุนสำหรับกลุ่มยานยนต์เป็น Neutral รอสัญญาณการฟื้นตัวที่เด่นชัดกว่านี้ ด้านนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า จากกรณีที่ทางญี่ปุ่นเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว คาดความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ดังนั้นทางญี่ปุ่นอาจต้องมีการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากไทยและประเทศอื่นเข้าไปช่วยเสริม รวมทั้งลูกค้าในกลุ่มยานยนต์&ชิ้นส่วน ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ของบริษัทที่ประสบภัยก็มีโอกาสสั่งซื้อสินค้าจากไทยมากขึ้น สำหรับกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน หุ้นเด่นคือบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH และบริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ขณะเดียวกันหุ้นทั้ง 2 ยังถือว่าน่าสนใจ โดย AH มีค่า P/E อยู่ที่ 11.42 ส่วน SAT อยู่ที่ 9.41 ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มยานยนต์ซึ่ง P/E อยู่ที่ 12.50 และเมื่อเทียบกับ P/E ตลาดซึ่งอยู่ที่ 20.74 (ณ วันที่ 25 เม.ย.59) อีกทั้ง ราคาหุ้นทั้ง 2 ยังมีอัพไซด์สูง โดย AH มีอัพไซด์ถึง 23.42% จากราคาเป้าหมาย บล.คันทรี่กรุ๊ป ที่ 13.70 บาท ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 11.10 บาท (ราคาปิด 26 เม.ย.) ส่วน SAT มีอัพไซด์ถึง 27.32% จากราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก 3 โบรกเกอร์ (บล.ยูโอบี เคย์เฮียน, บล.คันทรี่กรุ๊ป และบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) อยุ่ที่ 18.80 บาท ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 14.20 บาท (ราคาปิด 26 เม.ย.) *ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน