หุ้นเข้าตลาด

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ทำการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยพบว่ามีหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 3 หลักทรัพย์ ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ทั้ง 3 บริษัท มีมูลค่าระดมทุนรวม 790.40 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์อยู่ที่ 3,020.40 ล้านบาท ณ ราคา IPO สำหรับหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai เข้ามาซื้อขายในตลาดวันแรกพบว่า บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS ปรับตัวขึ้นปิดเหนือจอง 20% มาที่ระดับ 3.60 บาท จากราคาเสนอขายไอพีโอที่ 3.00 บาท , บริษัท มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MOTHER ปรับตัวขึ้นปิดเหนือจอง 15% มาที่ระดับ 1.61 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 1.40 บาท และบริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH ปรับตัวขึ้นปิดเหนือจอง 1% มาที่ระดับ 5.05 บาท จากราคาขายไอพีโอที่ 5.00 บาท ทั้งนี้ ภายหลังจาก PIS, MOTHER และ LTMH เข้ามาซื้อขายตลาดรองผ่านไปถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเดือนที่แล้ว ณ 11 เม.ย. 68 สำหรับ PIS ราคาปิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.68 อยู่ที่ 4.08 บาท หากเมื่อเทียบกับราคาไอพีโอ 3 บาท ยังคงเห็นราคาหุ้นเหนือจอง 36% ส่วนในรายของ MOTHER ราคาปิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.68 อยู่ที่ 0.67 บาท หากเมื่อเทียบกับราคาไอพีโอ 1.61 บาท พบว่าราคาต่ำจอง 58% เช่นเดียวกับ LTMH มีราคาปิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.68 อยู่ที่ 4.78 บาท หากเมื่อเทียบกับราคาไอพีโอ 5.05 บาท พบว่ามีราคาต่ำจอง 5% อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่เอื้อจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะในฝั่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งนักลงทุนเริ่มมีความกังวลต่อทิศทางนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนโยบายด้านภาษีศุลกากรและการตั้งกำแพงภาษีต่อประเทศคู่ค้า อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้าในระดับโลก หรือเกิดภาวะสงครามการค้าในที่สุด ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายในประเทศยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทย ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนต่อภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทที่อยู่ระหว่างการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ทำให้หลายบริษัทมีแนวโน้มชะลอการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออกไป เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม และให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ทว่าต้องจับตา หุ้นไอพีโอที่กำลังเรียงคิวที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีบริษัทได้รับอนุญาตแบบคำขอให้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่แล้ว (ยื่นไฟลิ่ง) ผ่านสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยพร้อมลงเทรด ได้แก่ บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO, บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ YSS, บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MRDIYT, บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS รวมถึงหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) มีบริษัทได้รับอนุญาตแบบคำขอให้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่แล้ว (ยื่นไฟลิ่ง) ผ่านสำนักงาน ก.ล.ต.เป็นที่เรียบร้อยพร้อมลงเทรด ได้แก่ บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BLUE, บริษัท พีเคเอ็น อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ IGNITE, บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN, บริษัท สมาร์ททีทีซี จำกัด (มหาชน) หรือ STTC, บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKILL, บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ HANN ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า การเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดเอ็ม เอ ไอ mai ของหุ้น IPO รายใหม่ จะยังเป็นไปตามแผนและกรอบเวลาที่วางไว้หรือไม่ ท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวนและแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก อาทิ ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความตึงเครียดด้านการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความพร้อมของบริษัทที่จะเดินหน้าเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ตามกำหนดเดิม