หุ้นเครื่องใช้ไฟฟ้า

นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (6 มิ.ย.67) ว่า มองทิศทางตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นโดยประเด็นหลักมาจากสัญญาณตัวเลขการจ้างงาน ภาคเอกชน (ADP) เดือนพฤษภาคมอยู่ที่ระดับ 1.5 แสนราย ต่ำกว่าที่คาดการณ์ตลาด ส่งผลให้ตลาดเกิดความคาดหวังทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่คาดจะปรับลดลง 2 ครั้งภายในปีนี้ จากก่อนหน้านี้คาดไว้เพียง 1 รอบ ขณะเดียวกันบอนดีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 4.3% ส่งผลให้ภาพรวมดังกล่าวจะหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงในเอเชียมีโอกาสที่จะOUTPERFORM เกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับวงจรดอกเบี้ยขาลงเริ่มต้นขึ้นแล้ววานนี้ หลังจากธนาคารกลางแคนาดาในกลุ่ม G7 โดยเป็นเจ้าแรกที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และในคืนนี้ต้องมาจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีโอกาสสูงมากที่จะปรับดอกลดเบี้ย เพราะฉะนั้นธนาคารกลางใหญ่ 2 แห่ง เริ่มวงจรดอกเบี้ยขาลง ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วทางสหรัฐน่าจะมีการปรับนโยบายการเงินเช่นกัน ซึ่งการประชุม ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) พร้อมกับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในสัปดาห์หน้าวันที่ 12 มิ.ย.67 ดังนั้นมองทิศทางตลาดหุ้นไทนให้แนวต้านที่ระดับ 1,350-1,359 จุด ส่วนแนวรับที่ระดับ 1,330 จุด อย่างไรก็ตามแม้ว่าปัจจัยภายนอกจะหนุนให้ตลาดแกว่งตัวขึ้นได้ แต่ปัจจัยภายในประเทศยังไม่หนุนตลาดเท่าที่ควร ขณะที่ตัวเลข GDP ไทยไตรมาส 1/67 ออกมาว่าดีกว่า Consensus คาด ขณะที่หลายสำนักปรับคาดการณ์ GDP ไทยลดลงเป็นส่วนใหญ่จึงเป็นภาพและเกิดคำถามในทิศทางตลาดสำหรับนักลงทุน และไม่มั่นใจแรงหนุนในตรมาส 2/67 โดยเฉพาะงบประมาณจะเดินสะดุดหรือไม่จากก่อนหน้านี้มีแผนออกมาชัดเจน เนื่องจากมีประเด็นการเมืองเรื่องคุณสมบัตินายกเศรษฐา แต่อย่างไรก็ตามยังให้น้ำหนักภาพรวมตลาดไปต่อได้และให้ประเด็นการเมืองดังกล่าวมีความเสี่ยงประมาณ 30% ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนเน้น Selective Buy เน้นกลุ่มกระแสบอน์ยีลด์สหรัฐปรับตัวลง และดีมานด์เซมิคอนดักเตอร์เร่งตัวขึ้น แนะนำ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ส่วนอีกกลุ่มที่ต้องจับตาคือกลุ่มเครื่องดื่ม เนื่องจากโมเมนตัม Earning และมาเก็ตแชร์เพิ่มขึ้นและมีสินค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งเป็นปีที่กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ,บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เป็นหุ้นเด่นเดือนนี้ ส่วนอีกกลุ่มคือหุ้นได้ประโยชน์ “ยูโร 2024” อาทิ กลุ่มเครื่องดื่ม,บริโภค ,ร้านสะดวกซื้อ, และกลุ่มค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือHMPRO, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) DOHOME, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL และท่องเที่ยวและโรงแรมอาทิ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน หรือ MINT มีโอกาสปรับตัวขึ้นและรับกระแส