หุ้นเศษบาท

ต้องยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นถ่านหินที่เรารู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็นบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU, บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA รวมทั้งบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ราคาต่างปรับขึ้นกันถ้วนหน้า รับปัจจัยบวกจากราคาถ่านหินตลาดโลกที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง... แต่มีอีกหนึ่งหุ้นถ่านหินที่ตามมาด้วย นั่นคือ บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC ซึ่งราคาก็ปรับขึ้นไม่แพ้หุ้นถ่านหินเจ้าใหญ่ ๆ เลย...สะท้อนได้จากราคาหุ้นในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับขึ้นไปแล้ว 40.21% รอบ 1 เดือน ปรับขึ้นไป 223.81% และรอบ 3 เดือน ปรับขึ้นไป 202.22% ถ้าย้อนดูแบ็กกราวด์ TCC ถือเป็นหุ้นที่มีประวัติโชกโชน...โดยแปลงร่างมาจากบริษัท ไทยฮีทเอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด (มหาชน) หรือ THECO ซึ่งก่อตั้งตั้งแต่ปี 2515 ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ผลิตชิ้นส่วนคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนให้แก่โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศสำเร็จรูป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ปี 2534 ต่อมาประสบปัญหาด้านการดำเนินงาน จนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในปี 2543 หลังจากเข้าห้องไอซียูรักษาตัวอยู่นานหลายปี...ในปี 2550 THECO ก็กลับมาในลุคใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC ในปัจจุบัน และขึ้นสู่โฮลดิ้ง คอมปานี ลงทุนใน 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจตลาดค้าส่งสินค้าเกษตร ที่จริงก่อนหน้านี้ TCC เป็นหุ้นที่วัน ๆ หนึ่งแทบไม่มีการซื้อขาย เทรดกันไม่กี่สิบล้านบาท ซึ่งด้วยสภาพคล่องที่ต่ำ จึงทำให้ราคาไปไว...ถ้าดูจากปัจจัยพื้นฐานเทียบกับเจ้าใหญ่ ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ราคาโหนกระแสถ่านหินไปไกลแล้ว เรียกว่า จากเดิมเป็นหุ้นเศษบาท ปัจจุบันยกสถานะเป็นหุ้นบาทเศษไปเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว... ด้วยราคาที่ร้อนฉ่า ล่าสุดก็ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ จับขังคุกแคชบาลานซ์แดน 1 (ระดับ 1 หรือเทียร์ 1) พ่วงด้วยหุ้นลูกอีก 3 ตัว ได้แก่ TCC-W3, TCC-W4 และ TCC-W5 มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.-11 ต.ค. 2564 แต่ดูเหมือนไม่สามารถสยบความร้อนแรงของ TCC ได้เลย...ดูได้จากราคาหุ้นที่ยังพุ่งแรงต่อเนื่อง โดยวานนี้ราคาปรับขึ้นไป 9.68% ปิดตลาดที่ระดับ 1.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 311 ล้านบาท แหม๊...อย่างนี้มันหยามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ กันชัด ๆ นะเนี่ย..!? ถ้าไปดูผลงานปีนี้ รายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 416 ล้านบาท ซึ่งเกือบเท่ากับรายได้ทั้งปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 483 ล้านบาท และแม้จะเห็นการเทิร์นอะราวด์ โดยครึ่งปีแรกโชว์กำไรสุทธิ 810,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามราคาถ่านหินโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น...แต่ในแง่ราคาหุ้น TCC วิ่งนำผลประกอบการไปไกล ก็น่าคิด หากราคาถ่านหินสะดุด TCC จะมีชะตากรรมเป็นเช่นไร..? ถ้าเป็น BANPU มีการกระจายความเสี่ยงไปลงทุนธุรกิจก๊าซ และธุรกิจไฟฟ้า ก็มีทางออก ส่วน LANNA แม้ไม่ค่อยขยับเขยื้อน...แต่ก็มีบริษัทลูก ซึ่งทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลช่วยหนุน ด้าน AGE ก็มีธุรกิจโลจิสติกส์มาช่วยเติมเต็ม... ขณะที่ TCC เน้นลงทุนกับธุรกิจถ่านหินเป็นหลัก ส่วนธุรกิจตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรน่าจะมีสัดส่วนที่น้อย ดังนั้นหากมีข่าวร้ายมาสะกิด ก็อาจทำให้นักลงทุนหลายคนติดดอยสูงได้...และด้วยเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ ก็อาจทำให้ติดแล้วติดเลย... ถึงเวลานั้น คงต้องบอกว่า เจ็บนี้นาน ยาวนาน..ขอพอ..แน่ ๆ... ...อิ อิ อิ...