หุ้นเฮลท์แคร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปในวันจันทร์ (17 มี.ค.68) ปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและเฮลท์แคร์ ขณะที่นักลงทุนเฝ้าติดตามแผนปฏิรูประบบหนี้ของเยอรมนี และพัฒนาการของสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 550.94 จุด เพิ่มขึ้น 4.34 จุด หรือ 0.79% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 8,073.98 จุด เพิ่มขึ้น 45.70 จุด หรือ 0.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 23,57 จุด เพิ่มขึ้น 167.75 จุด หรือ 0.73% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 8,29 จุด เพิ่มขึ้น 47.96 จุด หรือ 0.56% หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ปรับตัวขึ้น 1.5% ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ยืนยันเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน จนกว่ากลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านจะยุติการโจมตีเรือเดินสมุทร ซึ่งช่วยหนุนราคาพลังงานและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมนี้ ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ เพิ่มขึ้น 1.4% และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ถือเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการปฏิรูปด้านการคลังของเยอรมนี ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ อาจเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรป นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเจรจาระหว่าง ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดพบกันในวันอังคารนี้ โดยหากมีความคืบหน้าในการยุติความขัดแย้งในยูเครน อาจช่วยลดแรงกดดันต่อตลาดพลังงานยุโรป ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก ๆ รวมถึง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและความเสี่ยงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก