หุ้นโตแรง

* หลายวันที่ผ่านมามีคนถาม “โมนิก้า” รู้สึกกังวลกับการทะยานของดัชนี และหุ้นบางตัวขนาดไหน? และยังมีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยเป็นบวกสุด ๆ เหมือนเดิมหรือไม่? เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า ไม่เคยกังขากับตลาดหุ้นไทยแม้แต่นิดเดียว เพราะผลงานของบริษัทจดทะเบียนยังสวยไม่สร่าง (อาจมีสะดุดบ้างในไตรมาส 3) และยังคาดหวังถึงกำไรในไตรมาส 4 จะออกมาเลิศสะแมนแตนแบบนี้..มีอะไรต้องกลัวอีกเหรอคะ * ปัญหาอย่างเดียวที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจคือ เมื่อถึงเวลาเขย่าหุ้นเพื่อทำการปรับฐานจะรุนแรงขนาดไหน? และประเด็นดังกล่าวจะทำให้แฟนคลับถอดใจอีกไหมเอ่ย? ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาเม้าท์มอยมากกว่าปกติ เพราะตลาดหุ้นกำลังเดินเข้าสู่จุดขายที่สองของการเป็นขาขึ้น จึงไม่รู้ว่า เที่ยวนี้จะมีเอฟเฟ็กต์ขนาดไหน? และหุ้นดาวเด่นที่มีโกรทจะย่อตัวลงมาให้เก็บอ่ะป่าว? * ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้การขึ้นของดัชนีมายืนปิดที่ 1,636.45 จุด ลบไป 11.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท จึงเป็นทั้ง “โอกาส” และ “ความเสี่ยง” ของการเล่นรอบใหม่อย่างแท้ทรู “โมนิก้า” จึงต้องโฟกัสไปที่หุ้นโตแรงมากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น เพราะการมีโกรทถือเป็นเกราะป้องกันการไดลูทหนักได้เป็นอย่างดี และยังทำให้คนที่มีหุ้นเหล่านี้ไว้ในพอร์ตรู้สึกโล่งใจ โล่งจมูกเหมือนเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ไงล่ะคะ * ตัวแรกที่อยู่นอกเรดาร์ความสนใจของผู้คนทั่วไปก็คือ SGP ซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นแต่ละรอบเป็นไปอย่างเชื่องช้า และไม่เร้าใจตามแบบฉบับของขาลุยหุ้นซิ่ง ส่งผลให้คนที่เล่นหุ้นตัวนี้จริง ๆ มีเพียงแฟนพันธุ์แท้เท่านั้น แต่เมื่อมองในมุมของการเทรดบน PE 8 เท่า ผสานกับกำไรไตรมาส 2 โตพันเท่า เดี๊ยนจึงเชื่อว่า ราคาปิดที่ระดับ 12.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาทเป็นเซฟโซนที่เล่นได้นะนายจ๋า! * เช่นเดียวกับหุ้นถ่านหินตัวกลั่นอย่าง LANNA ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดที่มองทีไร ก็รู้สึกเพลินสายตา (เหมือนดูเมสซี่เล่นบอล) ทุกที ผนวกกับมีกำไรโตแปดเท่าเป็นแบ็คอัพ “โมนิก้า” จึงกล้าฟันธงแบบไม่กลัวด้ามธงหักว่า การยืนปิดที่ 24.10 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 312 ล้านบาท คือจุดที่ชี้ให้เห็นว่า ดาวน์ไซด์ต่ำ! บวกกับคาดการณ์กำไรโต (คิดบนพีอี 20 เท่า) ผสมกับราคาถ่านหินยังเป็นขาขึ้น จึงมีลุ้นเห็น 30 บาทนะจ๊ะ * ส่วนคนที่เน้นลงทุนยาว ๆ และความปลอดภัยมาก่อน “โมนิก้า” ขอให้มองไปที่หุ้น BJC เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับการเล่นธีมเปิดประเทศ เพราะราคาหุ้นยังแกว่งตัวออกด้านข้างเป็นหลัก ผสานกับบุ๊กแวลูอยู่ที่ระดับ 28.50 บาท (ถ้าคิด 1.50 เท่าของบุ๊กแวลู ราคาเหมาะสมจะอยู่แถว 42 บาท) ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานอยู่ที่ 34.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 96 ล้านบาท มันคือจังหวะของการทยอยเก็บหุ้นเจ้าค่ะ * ในเมื่อเปิดประเด็นด้วยหุ้นโตแรง ย่อมมีชื่อหุ้นดาวเด่น NER อยู่ในลิสต์ของการลงทุนด้วยเช่นกัน และเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” มั่นใจกับหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษคือ 3 ปีโตตลอด และปีนี้ก็จะโตเท่าตัวอีกเช่นกัน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการย่อตัวลงจากระดับ 8.50 บาท จนวานนี้ยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 7.45 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 9 เท่า มันคือโอกาสทองชัด ๆ นะจะบอกให้ * เช่นเดียวกับอาการเซื่อง ๆ ของหุ้น XO หลังจากห้อตะบึงขึ้นเป็นเวลานาน จนตอนนี้อยู่ระหว่างพักตัวเพื่อสะสมกำลังขึ้นรอบใหม่นั้น “โมนิก้า” ก็ยังรู้สึกสนใจหุ้นตัวนี้ไม่เสื่อมคลาย และเหตุผลที่ทำให้ปักใจเชื่อก็มาจากกำไรโตดีมาก บวกกับมีการเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้กับซอสของตัวเอง เดี๊ยนถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 21 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161 ล้านบาท มันคือโอกาสของการเล่นยาวนะจ๊ะ * ตบท้ายกันที่หุ้นโตชัวร์อย่างเช่น SINGER เพื่อชี้ให้เห็นลูกเล่นในอนาคตจะช่วยเบ่งกำไรได้อีกบาน บวกกับเที่ยวนี้มีฐานทุนใหม่เข้ามาเสริมแกร่งธุรกิจ “โมนิก้า” จึงเชื่อว่า ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงอยากให้แฟนคลับสายบุ๋นประเมินราคาปิดที่ 40.75 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 224 ล้านบาท เหมาะต่อการซื้อลงทุนขนาดไหนพะยะค่ะ