หุ้น ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง

คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีอนุมัติผลประมูลทางคู่ 2 เส้นทางแล้ว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าที่ประชุมบอร์ด รฟท. มีมติอนุมัติสั่งจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงิน 7.30 หมื่นล้านบาท จำนวน 3 สัญญา และโครงการรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงินรวม 5.50 หมื่นล้านบาท จำนวน 2 สัญญา โดยสะท้อนหลังจากที่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประกวดราคาก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุว่าการดำเนินการประมูลเป็นไปตามระเบียบถูกต้องตามกฎหมายครบถ้วน ไม่ปรากฎพฤติกรรมว่ามีการสมยอมราคา สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามรับทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2564 และส่งเรื่องให้กระทรวงคมนาคมแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการประกาศผลผู้ชนะ ซึ่งหากไม่มีการอุทธรณ์ภายใน 7 วันทำการ คาดจะลงนามได้ในเดือน ม.ค. 2565 โดยขณะนี้อัยการสูงสุดได้ตรวจร่างสัญญาทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประเด็นข้างต้นมีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมา โดยปัจจัยดังกล่าวจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อผู้ชนะประมูลอย่างบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC, บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, และบริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR ซึ่งชนะประมูลในโครงการทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมทั้ง บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ที่ชนะ 1 สัญญาในโครงการทางคู่สายบ้านไผ่-นครพนม นอกเหนือจากผู้รับเหมาหลัก ทางฝ่ายวิจัยมองว่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT เช่นกัน ซึ่งมีโอกาสได้งาน subcontract อุโมงค์ทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของสูงมาก โดยบริษัทได้มีการเสนอราคากับผู้รับเหมาหลักไปแล้ว และคาดจะเห็นความชัดเจนการรับงานในไตรมาส 1-2 ปี 2565 ทั้งนี้สำหรับ JV ระหว่าง CK,STEC และบริษัทนอกตลาด ซึ่งชนะประมูล 2 สัญญาโครงการทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่ารวม 4.60 หมื่นล้านบาท หากตั้งสมมติฐานสัดส่วนถือหุ้นใน JV ที่ 50%, 40%,10% ทางฝ่ายวิจัยประเมินโครงการดังกล่าวจะเป็น Upside ต่อราคาเป้าหมาย CK อย่างน้อยราว 0.30 บาท และราคาเป้าหมาย STEC ราว 0.20 บาท ตามลำดับ อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยคงน้ำหนัก “Overweight” กลุ่มรับเหมา จากแนวโน้มการเปิดประมูลโครงการใหญ่ที่มีความคืบหน้าต่อเนื่อง โดยทางฝ่ายวิจัยยังมองว่ามีโครงการค้างท่อที่จะทยอยเปิดประมูลในช่วง 2-3 ปีข้างหน้ารวมสูงถึง 8 แสนล้านบาท สำหรับ Top pick ได้แก่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท นอกเหนือจากโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ บริษัทยังมีตัวเร่งจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งจะเปิดยื่นซอง 27 ธ.ค. นี้ และบริษัทมีโอกาสได้งานสูงมากอย่างน้อย 1 สัญญา