หุ้น BCH

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH หลังบริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิ 1,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 311% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 254% เมื่อเทียบเทียบไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตดีกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.2564) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BCH ราคาเป้าหมายที่ 33 บาท/หุ้น มองแนวโน้มไตรมาส 3/2564 คาดกำไรสุทธิเติบโตสูง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและเติบโตต่อเนื่อง เทียบเทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามทิศทางรายได้ค่ารักษา โดยเฉพาะรายได้รักษาผู้ป่วย COVID ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2564จากการเพิ่มเตียง รพ. และ hospital นอกจากนี้ จะปรับกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้นอีก หลังร่วมประชุมกับ BCH วันที่ 26 ส.ค.21 เนื่องจากรายได้เสริมจาก COVID และ %Gross margin รวม มีแนวโน้มสูงกว่าคาด บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.2564) ยังคงแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 31.50 บาท จากเดิมที่ 30.50 บาท โดยมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น โดย BCH รายงานกำไรไตรมาส 2/2564 ที่ 1,146 ล้านบาท สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 969 ล้านบาท แต่สูงกว่าตลาดคาดไว้ที่ 690 ล้านบาท ทั้งนี้บล.เคทีบีเอสที ปรับกำไรสุทธิปี 2564 ขึ้น 107% เป็น 4,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 303% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่คงกำไรปี 2565 ที่ 1,607 ล้านบาท ลดลง 68% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการปรับรายได้ OPD/IPD ขึ้น 17%/27% และปรับ Gross profit margin ขึ้นเป็ น 42.5% จากเดิมที่ 30% และได้รวมรายได้จากวัคซีนทางเลือกเข้าไปในประมาณการราว 2,245 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 3/2564 จะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยสูงถึง 22,000 รายต่อวัน บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.2564) ยังคงคาดการณก์กำไรปี 2564 ที่ 2.16 พันล้านบาท จากการคาดการณ์รายได้ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท โดยที่คาดว่าในไตรมาส 3/2564 จะมีจำนวน Hospitel เพิ่มขึ้นเป็น 30 แห่ง และโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ปราจีนบุรี และโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ ได้เพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับคนไข้ COVID-19 และการรับตรวจเชื่อที่คาดว่าไตรมาส 3/2564 จะอยู่ที่ราว 8,000 ราย/วัน พร้อมทั้งการเริ่มให้บริการของโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ในเดือนส.ค. 2564 ในขณะที่ไตรมาส 4/2564 คาดว่ารายไดจ้ากวัคซีนทางเลือกจะช่วยเพิ่มการเติบโตของรายได้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BCH ราคาเป้าหมาย 30.30 บาท บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.2564) ว่า คาดผลประกอบการของ BCH ในครึ่งหลังปี 2564 จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยรายได้จากบริการผู้ป่วยในจะเพิ่มขึ้นตามยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เร่งตัวขึ้น และการขยายการเบิกจ่ายของ สปสช. ในกรณีผู้ป่วยใน และเพดานยอดเบิกจ่ายสำหรับ ICU บางรายการ ดังนั้น BCH จึงเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยในและ hospital เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจำนวนการตรวจโควิดในไตรมาส 3/2564 จะเพิ่มขึ้น 35-53% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ซึ่งจะชดเชยการปรับลดราคา RT-PCR ลงได้ นอกจากนี้ BCH จะบันทึกการปรับรายได้ของค่าเบิกจ่าย ของสำนักงานประกันสังคมปี 2563 ด้วย ส่วนรายได้จากบริการวัคซีนทางเลือกจะ เป็นปัจจัยกระตุ้นในไตรมาส 4/2564 จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ BCH ปีนี้ขึ้นอีก 109% เป็น 3.3 พันล้านบาท และปี 2565 ขึ้น 34% เป็น 2.3 พันล้านบาท และปี 2566 ขึ้น 30% เป็น 2.5 พันล้านบาท พร้อมทั้งใช้ราคาเป้าหมายกลางปี 2565 เป็น 30 บาท จึงปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.2564) ว่า เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่ากำไรงวดไตรมาส 3/2564 ของ BCH จะเร่งตัวขึ้นทั้งเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน โดยได้แรงสนับสนุนจากจำนวนผุ้ป่วยที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด และเป็นช่วงที่ผู้ป่วยมาใช้บริการมากตราฤดูการอยู่แล้ว อีกทั้งคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2564 จะอยู่ที่ 2.48 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% เมื่อเทียบจากปีก่อน และปี 2565 จะอยู่ที่ 1.78 พันล้านบาท ลดลง 28.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน ชอบ BCH ในแง่ที่เลือกดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ดีโดนบริษัทลดผลกระทยจากโรคระบาดด้วยดารเน้นตรวจ COVID-19 ซึ่งช่วยชดเชยรายได้จากต่างชาติที่หายไปของ WMC ทั้งนี้กำไรของ BCH ยังมี upside อีกจากวัคซีนทางเลือกซึ่งจะเริ่มฉีดในไตรมาส 4/2564 ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BCH ราคาเป้าหมาย 28 บาท บล.คิงฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.2564) ว่า จากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในประเทศไทยยังคงมีผู้ติดเชื้อในระดับสูงที่ระดับ 2 หมื่นคน/วันจํานวน ผ็ติดเชื้อที่ต้องใช้เตียงสูงขึ้น เป็นนบวกโดยตรง BCH โดยที่ปัจจุบันมองว่าทาง BCH มีความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโควิดจํานวนมากจากเตียงในร.พ. (สําหรับโควิด) ราว 1,700 เตียง ในASQ ราว 2,400 ห้องและ ใน Hospitel ราว 16,100 เตียง เบื้องต้นประเมินว่าจํานวนผู้เข้ารักษาตัวในไตรมาส 3/2564 จะยังคงปรับตัวสูงกว่าในไตรมาส 2/2564 นอกจากนี้ ในด้านการตรวจเชื้อ Covid-19 ก็จะยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน โดยทาง ร.พ. เพิ่ม Capacity ในการตรวจเป็น 1.6 หมื่นเคส/วัน โดยบล.คิงฟอร์ด มองว่าประเด็นจาก Rapid Test จะส่งผลกระทบน้อยเนื่องจากเป็นการสกรีนเบื้องต้นเท่านั้น ผู้ป่วยจะต้องทําการตรวจ PCR เพื่อยืนยันอยู่ดี จึงมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/2564 จะยังคงโดดเด่นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2564 ทั้งนี้ปัจจุบันประมาณการกําไรสุทธิปี 2564 ที่ระดับ 2,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.10% เมื่อเทียบจากปีก่อน อย่างไรก็ตามกําไรสุทธิครึ่งแรกปี 2564 คิดเป็น 72% ของประมาณการ จึงอาจมีการทบทวนปรับประมาณการขึ้น แนะนํา “ซื้อเก็งกําไร” โดยมีเราคาเป้าหมายอยู่ที่ 27 บาท