หุ้น HFT

ผู้สื่ข่าวรายงานว่า วันนี้(23ก.ย.2564) บริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ HFT ณ เวลา 10.51 น. อยู่ที่ระดับ 9.05 บาท บวก 0.55 บาท หรือ 6.47% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 63.76 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้นายจวง จื้อ เหยา รองประธาน และกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม HFT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 คาดรายได้จะเติบโตมากกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 1,588.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 259.34 ล้านบาท เนื่องจากได้แรงสนับสนุนจากการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางใน ยางนอก และรถจักรยาน หลังจากอุตสาหกรรมรถจักรยานขยายตัวโดดเด่นตามเทรนด์วิถีชีวิตใหม่ยุค COVID-19 (New Normal) ในต่างประเทศ ประกอบกับยังได้รับปัจจัยบวกจากคู่แข่งในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย เวียดนาม ที่ได้มีการปิดโรงงานส่งผลให้มีคำสั่งซื้อ (Order) เข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2564 ที่จะมีการส่งมอบค่อนข้างสูง ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินแผนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นจะใช้งบลงทุนอีก 150 ล้านบาท เพื่อลงทุนในเครื่องจักรใหม่ในส่วนของกำลังผลิตยางรถจักรยาน (New Machine) เป็นหลัก ซึ่งกำหนดเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตในไตรมาส 2/2565 และเดินเครื่องจักรเต็มที่ 100% ในครึ่งปีหลังของปี 2565 ด้วยกำลังผลิตรวม 73,000 เส้นต่อวัน ขณะที่บริษัทมองเทรนด์อุตสาหกรรมรถจักรยาน ในปัจจุบันมีการขยายตัวดี และอยู่ระหว่างศึกษาการขยายไลน์ผลิตไปสู่ยางรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (E-Bike) อีกด้วย ส่วนด้านผลิตภัณฑ์ยางรถจักรยานยนต์ จะยังคงรักษาอัตรากำลังการผลิตไว้ระดับเดิม และปรับเปลี่ยนไปตามเทรนด์โลกในอนาคต นอกจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปี 2564 บริษัทยังได้ผลบวกจากการปรับราคาขายขึ้นอีก 5% เมื่อเดือน ก.ค. 2564 ตามทิศทางราคาต้นทุนวัตถุดิบการผลิต มีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันได้มีการควบคุม และบริหารจัดการความเสี่ยงไว้ทุกด้าน ซึ่งคาดว่าจะยังคงสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ในระดับใกล้เคียงในช่วงครึ่งปีแรก สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2564 ยอดขายของบริษัทยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย และครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตได้ดีตามที่กล่าวมาข้างต้น หากราคาต้นทุนวัตถุดิบเข้ามากดดันไม่มากจนเกินไป พร้อมทั้งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการสต๊อกสินค้าไว้รองรับตลาดที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นสต๊อกที่มีคำสั่งออเดอร์ของลูกค้าเกือบทั้งหมด ดังนั้นมั่นใจว่าปี 2564 ยังคงเป้าหมายรายได้รวม 3,200 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 2,674.38 ล้านบาท ขณะเดียวกันมองว่าทิศทางกำไรน่าจะยืนอยู่ได้ในระดับที่ดี ประเมินว่ากำไรสุทธิจะทำระดับนิวไฮจากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 412.62 ล้านบาท จากในช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 259.34 ล้านบาท และประเมินอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยไว้ที่ระดับ 22-24% จากปี 2563 มีอัตรากำไรขั้นต้น 23% นอกจากนี้มองว่าธุรกิจในปี 2565 จะยังคงเติบโตไปตามเทรนด์อุตสาหกรรมรถจักรยาน บวกกับปัจจัยบวกใหม่ คือ ธุรกิจกัญชง-กัญชา ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุมัติผลิตภัณฑ์จากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยอาจล่าช้าไปบ้าง เพราะพนักงาน อย.ที่เกี่ยวข้อง WFH ในช่วงนี้ เมื่อได้ใบอนุญาตแล้ว เตรียมรุกตลาดได้ทันที และ ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์รถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ ผ่านช่องทางการขายของบริษัท และพันธมิตร คาดว่าภายใน 2-3 ปี ธุรกิจใหม่จะมียอดขายเทียบเท่าธุรกิจหลักได้