องค์การอนามัยโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(23 ม.ค.63) องค์การอนามัยโลก (WHO) สรุปการประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ว่ายังเร็วเกินไปที่จะประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern หรือ PHEIC) แม้ล่าสุดทางการจีนจะแถลงยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้นอกพื้นที่เป็นรายแรกแล้ว "ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก การแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวถือเป็นภาวะฉุกเฉินในประเทศจีน แต่ยังไม่ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก” นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมฉุกเฉินของ WHO ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเจนีวาเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม การประเมินของ WHO บ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดในจีนอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูงมาก ขณะที่ความเสี่ยงในระดับภูมิภาคและระดับโลก ก็สูงด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้จีนได้ใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกก็เชื่อว่ามีความเหมาะสมแล้ว “เราหวังว่าการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะได้ผลและประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น สำหรับตอนนี้ องค์การอนามัยโลกยังไม่มีคำแนะนำเกี่ยวกับข้อจำกัดอย่างกว้างๆในด้านการเดินทางหรือการค้าใดๆ” ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ระบุ ด้านนายปีเตอร์ ไพลอต ศาสตราจารย์ด้านสุขภาพโลกและผู้อำนวยการสถาบันสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อน แห่งลอนดอน ให้ความเห็นว่า การแพร่ระบาดกำลังอยู่ในขั้นที่สำคัญยิ่ง เมื่อพิจารณาถึงการตัดสินใจไม่ประกาศให้การแพร่ระบาดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณะสุขระหว่างประเทศ การยกระดับความร่วมมือในระดับสากลและการทุ่มเททรัพยากรเพิ่มเติมจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับหยุดยั้งการแพร่ระบาด เจ้าหน้าที่ระดับชาติและองค์การอนามัยโลกจำเป็นต้องเดินหน้าเฝ้าสังเกตการณ์พัฒนาการของไวรัสชนิดนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข แสดงความกังวลว่าอัตราการติดเชื้ออาจเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากชาวจีนหลายร้อยล้านคนกำลังจะเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศระหว่างวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีนที่จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์นี้ (25 ม.ค.) ซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 634 คน เสียชีวิต 17 คน