อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา

บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนลง 179,730,305.00 บาท จากเดิม 787,150,286.00 บาท เป็น 607,419,981.00 บาท จากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียน 155,788,711.00 บาท เป็น 763,208,692.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 311,577,422 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยบริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อ (1) เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) จำนวนไม่เกิน 240,963,856 หุ้น อัตราส่วนการจัดสรรจะอยู่ในช่วง 4.558-5.042 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 41.50 บาท (2) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 70,500,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 4(JMT-W4) JMT-W4 ในอัตราส่วน 3.418 หุ้นสามัญใหม่ที่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม :1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ อายุ 3 ปี และมีราคาใช้สิทธิ 90 บาทต่อหุ้น และ (3) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิภายใต้โครงการ JMT-W2 JMT-W3และ JMTESOP W1 ที่มีการปรับสิทธิโดยการปรับราคาและการใช้สิทธิ บริษัทกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 1 พ.ย.64 เป็นรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญ เพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering)และใบสำคัญแสดงสิทธิ JMT-W4(Record Date) ในวันที่ 8 พ.ย.64 ส่วนระยะเวลาการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 14-20 ธ.ค.64 ทั้งนี้ บริษัทจะสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการที่มีคุณภาพในการสร้างผลตอบแทน เช่น การจัดซื้อและบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ (Distressed Debts) ที่คัดกรองปัจจัยพื้นฐานทางการเงินของผู้กู้แล้ว จำนวน 7,300 ล้านบาทกำหนดใช้เงินในปี 64-66 และชำระคืนหนี้และเป็นเงินลงทุนหมุนเวียน 2,700 ในช่วงปี 64-65 ทั้งนี้แหล่งข่าวได้มีการสอบถามไปยัง นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานกรรมการ เรื่องในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของตัว JMT ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ดังกล่าวข้างต้น โดยจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เป็นการจัดหาเงินลงทุนเพื่อใช้รองรับซื้อหนี้เสียจากธนาคารพาณิชย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจากการสอบถามพบว่า ทางหนี้เสียอยู่ในขณะนี้สูงขึ้นกว่ามาตรฐานจากเดิมอยู่ราว 500,000 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านล้านบาท ส่งผลให้คาดว่าธนาคารพาณิชย์แห่งประเทศไทยจะทยอยปล่อยหนี้เสียออกมาจำหน่าย ดังนั้น JMT ในฐานะเป็นบริษัท AMC อันดับหนึ่งในประเทศไทย จึงเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสและจังหวะดีในการวางแผนเพิ่มทุนรอรับการเข้าไปซื้อหนี้ในอนาคต