อพยพคนไทย

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศยูเครนที่เกิดเหตุการณ์ความตึงเครียดกับรัสเซีย โดยกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่าได้กำหนดแผนอพยพคนไทยไว้พร้อมแล้ว หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ แต่หากมีการปิดน่านฟ้าจะจัดรถรับคนไทยข้ามแดนไปยังประเทศโปแลนด์ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานถึงสถานการณ์ในยูเครนเป็นระยะๆ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยคนไทยที่อยู่ในยูเครน ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้ติดต่อสื่อสารกับกลุ่มคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงทีหากมีเหตุจำเป็น รวมทั้งได้สอบถามความเป็นอยู่ของชาวไทยและเตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ได้กำหนดแผนอพยพที่ 1 อพยพคนไทยกลับไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำจากเมืองลวิฟ แผนอพยพที่ 2 หากน่านฟ้ายูเครนปิดก็จะอพยพคนไทยมารวมกันเพื่อเดินทางข้ามแดนไปยังกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทย และแผนอพยพที่ 3 รัฐบาลส่งเครื่องบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI หรือกองทัพอากาศไปรับคนไทย ทั้งนี้ คนไทยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หมายเลข +48-696-642-348 (24 ชม.) หรือ E-mail : thaiconsularwarsaw@thaiemb.pl ด้านพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง สถานการณ์ของรัสเซียและยูเครนว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการเรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้กำหนดท่าทีชัดเจน ซึ่งรัฐบาลไทยมีความกังวลอย่างมากกับการยกระดับสถานการณ์ในทวีปยุโรป และท่าทีของไทย คือ ขอให้การแก้ไขปัญหาและพื้นที่ดังกล่าวสงบสุขโดยเร็ว และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และขอให้ใช้แนวทางเจรจาในการแก้ปัญหา ขณะเดียวกันสิ่งที่รัฐบาลได้สั่งการแล้ว คือ การเตรียมการอพยพคนไทยในพื้นที่ที่มีปัญหา ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานก็ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ โดยขณะนี้ได้เตรียมสำหรับคนไทย 250 คนที่อยู่ในยูเครน และกำลังดูตัวเลขคนไทยที่รัสเซียเช่นเดียวกัน ทั้งนี้หากต้องอพยพคนไทยออกจากยูเครนจะให้เดินทางกลับประเทศไทยเลยหรือไม่นั้น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ตามขั้นตอนมีวิธีปฏิบัติ ทางสถานทูตที่ใกล้ที่สุด คือ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ก็จะดำเนินการเรื่องนี้ตามแผนที่วางไว้ และทางสถานทูตโปแลนด์ได้ติดต่อกับคนไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการอพยพคนไทยแต่อย่างใด ส่วนการตัดสินใจอพยพนั้น จะเป็นการร้องขอจากคนไทยในพื้นที่ หรือเป็นการประเมินสถานการณ์จากรัฐบาลไทย พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สามารถทำได้ทั้งสองทาง โดยจะประเมินสถานการณ์เป็นหลัก