ออง ซาน ซู จี

เป็นเวลาเกือบ 4 ปีแล้ว ที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาหรือพม่า ตกอยู่ในภาวะสงคราม หลังเกิดรัฐประหารโดยกองทัพทหารพม่าเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของ “นางออง ซาน ซู จี” ช่วงต้นปี 2564 นำมาสู่การสู้รบกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยอยู่เนือง ๆ... ผลพวงจากความไม่สงบดังกล่าว ทำให้กลุ่มทุนธุรกิจไทยที่เข้าไปขุดทองในเมียนมาต้องปรับกลยุทธ์หาทางหนีทีไล่กันจ้ารละหวั่น..!! ถ้าจำกันได้ ก่อนหน้านี้บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ซึ่งมีทั้งไปลงทุนธุรกิจผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง และธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้ว เพิ่งประกาศถอนสมอบางส่วนจากตลาดเมียนมา ด้วยการขายโรงขวดแก้วให้กับบริษัท Marlarmyaing Public Company Limited คิดเป็นมูลค่า 50,000 ล้านเมียนมาจัต หรือประมาณ 810 ล้านบาท ภายใต้เงื่อนไข MGE Group จะไม่มีภาระผูกพันจากการกู้ยืม (Debt-free) ณ วันโอนหุ้น และการจำหน่ายต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 นี้ งานนี้แม้รู้ทั้งรู้ว่าต้องบุ๊กขาดทุนก้อนโต (ประเมินขาดทุนราว 700–800 ล้านบาท) แต่ OSP ก็ยินดีจะขายโรงขวดแก้ว...คงยึดคติที่ว่า เจ็บ..แต่จบละมั้ง..!? ล่าสุดเป็นคิวของบริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ที่ร้องเพลงถอยดีกว่า...ไม่เอาดีกว่า ตลาดเมียนมา ด้วยการประกาศถอนสมอการลงทุนร่วมในบริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ (เมียนมาร์) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตอาหารพื้นเมืองไทย ได้แก่ หมูยอ ไก่ยอ แหนม ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นไก่ และสินค้าแปรรูปจากเนื้อสุกรและเนื้อไก่ ได้แก่ ไส้กรอกหมู ไส้กรอกไก่ แฮม เบเคอน ฯลฯ ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ (เมียนมาร์) มีทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทที่ SORKON เข้าไปร่วมลงทุนตั้งแต่ปี 2562 ในสัดส่วน 60% กับหุ้นส่วนอีก 4 ราย โดยปัจจุบันบริษัทยังไม่มีการลงทุน และเปิดดำเนินการแต่อย่างใด... ส่วนเหตุของการถอนสมอจากเมียนมาครั้งนี้ ชัดเจนว่า “เป็นผลมาจากประเทศเมียนมา เกิดการสู้รบระหว่างฝ่ายยึดอำนาจ และฝ่ายผู้ถูกยึดอำนาจ บ้านเมืองเกิดความไม่สงบและขาดกำลังซื้อ หลังจากเฝ้าติดตามสถานการณ์มานาน สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น หุ้นส่วนซึ่งเป็นคนท้องถิ่นเห็นว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้อยาวนาน เป็นอุปสรรค และไม่ปลอดภัยต่อการลงทุนและดำเนินธุรกิจ” แหม๊...อุตส่าห์รอดูท่าทีมานานกว่า 5 ปี แต่สถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย งั้นกลับมาตั้งหลักในบ้านเราก่อนดีกว่า..!! ว่าไปแล้ว การที่ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ (เมียนมาร์) ยังไม่เปิดดำเนินการ ก็อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ SORKON ก็ได้นะ...เพราะทุนไม่จม และไม่ต้องเจ็บตัวหนัก แต่ก็เสียโอกาสทางธุรกิจแหละ อันนี้ปฏิเสธไม่ได้... หลังจากนี้ SORKON คงหันมาโฟกัสตลาดที่ตัวเองถนัด รวมทั้งการไปแสวงหาตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพเติบโตต่อไป...เป็นกำลังใจให้ละกัน อ้าว...มีกลุ่มทุนไทยถอนสมอธุรกิจไปสองรายแล้ว ก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นรายต่อไป..?? ที่น่าเป็นห่วง หนีไม่พ้นธุรกิจยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของบริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ที่พึ่งพาตลาดเมียนมาราว 38% ของรายได้รวม...ก็ไม่น้อยนะ ว่าแต่จะทนยื้อไปได้สักกี่น้ำกันเชียว..!? ...อิ อิ อิ...