อัลแลน วอตส์

ข้อมูลจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ณ วันที่ 9 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา พบว่า ประเทศไทย มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-8 ธ.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 32.72 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก 1)จีน จำนวน 6,325,694 คน 2)มาเลเซีย จำนวน 4,586,284 คน 3)อินเดีย จำนวน 1,961,246 คน 4)เกาหลีใต้ จำนวน 1,723,423 คน 5)รัสเซีย จำนวน 1,551,205 คน ประเด็นที่น่าสนใจนั่นคือ “นักท่องเที่ยวอินเดีย” มีพัฒนาการการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อรายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลก กำลังจับตามองและคาดหวังว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวสัญชาติอินเดีย จะเป็นตัวกระตุ้นมูลค่าการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เฉกเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนมาแล้ว โดย World Travel and Tourism Council รายงานว่า ช่วงปี 2566 นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวนอกประเทศมากถึง 34,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.16 ล้านล้านบาท “อัลแลน วอตส์” ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Hilton ระบุว่า การเดินทางออกนอกประเทศของชาวอินเดีย จะเป็นส่วนสำคัญตลอดทศวรรษหน้า โดยตามการคาดการณ์ของ World Travel & Tourism Council ผ่านรายงาน Economic Impact 2024 ระบุว่าปี 2577 นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย จะใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือคิดเป็น 76,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.61 ล้านล้านบาท นั่นทำให้อินเดีย เป็นประเทศที่ใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก เพิ่มขึ้นจากอันดับ 12 ช่วงปี 2567 ทั้งนี้ “อินเดีย” มีลักษณะคล้ายกับจีน โดยมีประชากรมากถึง 1,400 ล้านคน กลุ่มประชากรวัยหนุ่มสาว และมีการเติบโตของจีดีพีที่แข็งแกร่ง แต่ว่าด้านโครงสร้างพื้นฐาน อินเดีย เพิ่งอยู่ช่วงเริ่มต้นของพัฒนาและกำลังมีการลงทุนอย่างมหาศาลในการสร้างและพัฒนาถนน, รถไฟความเร็วสูงและสนามบิน โดยมีเป้าหมายการเพิ่มขนาดเศรษฐกิจให้ถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2573 และเปลี่ยนประเทศให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2590 การเดินทางทางอากาศ ปัจจุบันอินเดีย มีจำนวนผู้โดยสารสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ตามข้อมูลจาก Airports Council International และคาดว่าปี 2585 จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 960 ล้านคน สัปดาห์ที่ผ่านมา Air India สายการบินแห่งชาติอินเดีย ยืนยันการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส 100 ลำ ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งซื้อเครื่องบินทั้งหมด 470 ลำ ในปี 2566 เป็นการทำลายสถิติที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การบินอินเดีย นอกจากนี้สายการบินต้นทุนต่ำ Indigo ของอินเดีย มีการทำลายสถิติด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส 500 ลำ ช่วงปีเดียวกัน มีกำหนดส่งมอบช่วงระหว่างปี 2573-2578 ด้านการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัทด้านการบริการท่องเที่ยวระดับโลกหลายแห่ง กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวหน้าใหม่จำนวนมาก เนื่องจากประเมินว่าอนาคตจะมีประชากรหลายล้านคนของอินเดีย ที่ขยับขึ้นมาอยู่ในชนชั้นกลางมากขึ้นอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อีกนัยหนึ่งที่ทำให้หลายประเทศ หันมาจับตานักท่องเที่ยวจากอินเดีย นั่นคือ การที่จำนวนการเดินทางออกนอกประเทศของนักท่องเที่ยวจีนลดลง ทำให้ประเทศต่าง ๆ หันมาพึ่งพานักท่องเที่ยวอินเดียแทน มีการใช้หลายวิธีในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น การทำข้อตกลงไม่ต้องขอวีซ่า การเปิดเที่ยวบินตรงและการใช้แคมเปญโฆษณาเพื่อดึงดูดความสนใจ จากปรากฏการณ์ “จีนหดอินเดียเพิ่ม” จะทำให้โมเมนตัมตลาดท่องเที่ยวโลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง..!! สุภชัย ปกป้อง