อาฟเตอร์ช็อก

ศูนย์ประสานงานพิทักษ์พลเรือนแห่งชาติ (CNPC) รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.5 ตามมาตราแมกนิจูด โจมตีรัฐวาฮากาทางตอนใต้ของเม็กซิโกเมื่อวันอังคาร (23 มิ.ย.63) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย ขณะที่ศูนย์บริการด้านแผ่นดินไหวแห่งชาติ (SSN) ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เมื่อเวลา 22.29 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวห่างจากหมู่บ้านลา ครูเซซิตา (La Crucecita) ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในวาฮากา ไปทางใต้ราว 23 กม. โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตที่เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน เสียชีวิตจากเหตุหลังคาและผนังพังถล่มในสถานที่ต่างกัน ส่วนผู้เสียชีวิตเพศชายอีกรายหนึ่งเป็นพนักงานของเปเม็กซ์ (Pemex) บริษัทน้ำมันของรัฐ ซึ่งพลัดตกจากอาคารระหว่างเกิดแผ่นดินไหวและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บ (แฟ้มภาพซินหัว : เศษซากหลังเกิดแผ่นดินไหวในรัฐวาฮากา ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2020) ทั้งนี้ แรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงรู้สึกได้ในรัฐทางตอนกลางและตอนใต้ 12 รัฐ และเมื่อนับถึงเวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 447 ครั้ง ขณะที่โครงสร้างอาคารบางส่วน อาทิ บ้านเรือน ตลาด โรงเรียน โบสถ์ และโรงพยาบาล 4 แห่ง ตามพื้นที่ต่างๆ ได้รับความเสียหาย ศูนย์ประสานงานฯ รายงานว่าอาคารในย่านใจกลางเมืองใกล้กับทำเนียบรัฐบาล (National Palace) ในกรุงเม็กซิโก ซิตี ได้รับความเสียหายที่ภายนอกจำนวน 32 แห่ง ส่วนอาคารที่ได้รับความเสียหายที่โครงสร้างมีเพียงแห่งเดียว และถูกประกาศว่าห้ามใช้แล้ว (แฟ้มภาพซินหัว : เศษซากหลังเกิดแผ่นดินไหวในรัฐวาฮากา ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2020) ด้านโรงกลั่นน้ำมันของเม็กซิโกในเมืองท่าซาลีนา ครูซ (Salina Cruz) ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านลา ครูเซซิตา ราว 143 กิโลเมตร ถูกปิดทำการชั่วคราวเพื่อเฝ้าระวัง ก่อนกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง นอกจากนี้ศูนย์บริการด้านแผ่นดินไหวได้ออกประกาศเตือนคลื่นสึนามิที่ก่อตัวนอกชายฝั่งวาฮากา และแนะนำให้ประชาชนอพยพจากพื้นที่ชายฝั่ง ทั้งนี้ เม็กซิโกตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนมากมาย จึงทำให้ตลอดช่วง 35 ปีที่ผ่านมาเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก (แฟ้มภาพซินหัว : ภาพหลังเกิดแผ่นดินไหวในกรุงเม็กซิโก ซิตี เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2020)