อีรัก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 16 เม.ย.68 ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก (OPEC) รวมรัสเซียและชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (OPEC+) ได้เปิดเผยแผนล่าสุดในการควบคุมการผลิตน้ำมันของ 7 ประเทศสมาชิก เพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันที่ผลิตเกินโควตาในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันโลก ภายใต้แผนดังกล่าว ประเทศสมาชิกทั้ง 7 ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย, อิรัก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, คูเวต, คาซัคสถาน และโอมาน จะทยอยลดกำลังการผลิตรวม 369,000 บาร์เรลต่อวัน โดยจะดำเนินการเป็นรายเดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ ไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2569 สำหรับภายใต้แผนใหม่นี้ ปริมาณการลดการผลิตต่อเดือนจะอยู่ระหว่าง 196,000 - 520,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าระดับในแผนเดิมที่อยู่ในช่วง 189,000 - 435,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามหากดำเนินการได้ตามเป้าหมาย แผนดังกล่าวจะช่วยชดเชยการเพิ่มกำลังการผลิตของประเทศสมาชิกบางราย ซึ่งมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตรวมประมาณ 411,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤษภาคม และถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนเสถียรภาพของราคาน้ำมันในตลาดโลก ท่ามกลางภาวะภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังเปราะบาง และแนวโน้มอุปสงค์ที่ผันผวน รายงานยังระบุว่า อิรักเป็นประเทศที่มีปริมาณผลิตเกินโควตามากที่สุด โดยต้องลดกำลังการผลิตเพื่อชดเชยสะสมรวม 1.93 ล้านบาร์เรล ภายในเดือนมิถุนายน 2569 ขณะที่คาซัคสถานต้องลดการผลิตรวม 1.3 ล้านบาร์เรลในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ โอเปกพลัสได้เริ่มใช้มาตรการลดการผลิตน้ำมันมาตั้งแต่ปลายปี 2565 เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ที่อ่อนตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจโลก โดยการปรับแผนครั้งนี้ถือเป็นความพยายามล่าสุดในการบังคับใช้ข้อตกลงเดิมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังจากมีบางประเทศสมาชิกไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ตามที่ตกลงไว้