อีสเทอร์น สตาร์

ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า คาดการณ์กำลังซื้อกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงกำลังฟื้นตัว ผู้ซื้อเริ่มมีความมั่นใจในสภาพเศรษฐกิจมากขึ้น จะเห็นได้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนกำลังกลับมาขับเคลื่อนได้เต็มรูปแบบ ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2566 มีทิศทางบวกเมื่อผนวกกับมาตรการรัฐที่สนับสนุนกำลังซื้อภาคอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งมีส่วนกระตุ้นให้ภาคธุรกิจมีความคึกคัก ทั้งนี้ สภาพการแข่งขันในธุรกิจอสังหาฯ จะแข่งขันในอัตราเร่ง ที่อยู่อาศัยที่ยังเป็นซัพพลายเดิมจะถูกเร่งขายเร่งโอน ขณะที่ซัพพลายใหม่เริ่มมีเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ตลาดใหญ่ยังคงเป็นตลาดระดับกลางที่มีกำลังซื้อและมีความต้องการที่อยู่อาศัยจริงโดยในปีที่ผ่านมาพบว่าตลาดที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมคือ อาคารชุดที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวระดับราคา 5-10 ล้านบาท สำหรับอีสเทอร์น สตาร์ ใช้ความโดดเด่นในการพัฒนาดีไซน์และคุณภาพสินค้ามาเป็นจุดแข็งเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน มุ่งเจาะกลุ่มตลาดระดับกลาง Gen Y โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกโครงการภายใต้แนวคิด Creator of Life’s Pleasure สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้จากความเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ใน 3 แกนหลักคือ Design, Green และ Living สร้างสรรค์การอยู่อาศัยแบบ Smart life อย่างสมบูรณ์รอบด้านด้วยดีไซน์ปราณีตของงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่มอบประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ให้ความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้สอยที่รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ ยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานสะอาด โดยมีพื้นที่สำหรับ EV charger ให้ลูกบ้าน มีระบบจัดการขยะเพื่อสนับสนุนการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ที่อยู่อาศัยยังต้องช่วยสร้างความสมดุลในการใช้ชีวิตตอบรับสังคมวิถีใหม่ new normal ซึ่งให้ความสำคัญกับพื้นที่แยกสัดส่วนความเป็นสาธารณะกับพื้นที่ส่วนตัวชัดเจนหากยังเชื่อมโลกไว้ได้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม “เพราะเราไม่ได้ต้องการขายแค่ที่อยู่อาศัย แต่ต้องการให้ลูกค้าได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกสิ่งที่เราสร้างสรรค์ไว้ให้เพื่อทำให้ทุกคนมีคุณภาพการอยู่อาศัยดีที่สุด” ดร.ต่อศักดิ์ กล่าว โดยปี 2566 อีสเทอร์น สตาร์ มีสินค้าบุกตลาดเป็นโครงการพัฒนาใหม่ในรูปแบบบ้านเดี่ยวบนทำเล EEC พื้นที่ภาคตะวันออก และโครงการอาคารชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ มีเปิดตัวซีรีส์ใหม่ "มาย" (MHy) 3 ทำเล ภายใต้แบรนด์ควินทารา ทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพฯ ประกอบด้วย Quintara MHy’DEN โพธิ์นิมิตร คอนโดฯ ไฮไรส์ 40 ชั้น 628 ยูนิต เป็นอาคารสูงตัวแรกของทางแบรนด์ควินทารา ที่ดีไซน์ให้มีความหลากหลายของขนาดยูนิต ฟังก์ชันใช้สอยครบตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คน Gen Y เปิดราคาเริ่มที่ 2.69 ล้านบาท ด้วยทำเลเด่นติดสถานีบีทีเอสโพธิ์นิมิตร มาในคอนเซ็ปต์ ไพรเวทไอส์แลนด์ ดีไซน์อาคารสูงสวยทันสมัยสะดุดตาครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่ชั้นล่างไปจนถึงดาดฟ้าที่มีดีไซน์พิเศษสร้างสรรค์พื้นที่ให้กลายเป็นสวนสาธารณะขนาดย่อมพร้อมลู่วิ่งบนยอดอาคารเล่นระดับทำให้ได้ระยะวิ่งยาวเสมือนได้วิ่งในสนามพื้นราบขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีพื้นที่สังสรรค์ทำกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนได้หลากหลาย ดีไซน์สระว่ายน้ำไร้ขอบ มอบบรรยากาศธรรมชาติสดชื่นท่ามกลางชีวิตเมืองเพื่อให้การใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข สามารถจัดสมดุลชีวิตและการทำงานในทุกๆ วันได้ลงตัว ในพื้นที่ส่วนกลางยังมีพื้นที่ห้องสตูดิโอรองรับอาชีพใหม่ๆ อย่างการไลฟ์ขายของออนไลน์ ดีไซน์ working pod พื้นที่ทำงานส่วนตัว, พื้นที่ BBQ Corner สำหรับคนชอบทำอาหาร ชวนเพื่อนมาปาร์ตี้ หรือมาทำอาหารด้วยกัน เป็นต้น Quintara MHy’GEN รัชดา-ห้วยขวาง คอนโดฯ โลวไรส์ 2 อาคาร 383 ยูนิต ตอบโจทย์คน Gen Y ที่ชอบสไตล์มินิมอล - น้อยแต่มาก ดีไซน์ยูนิตทุกขนาดพื้นที่จัดเต็มฟังก์ชันใช้สอยทั้งการอยู่อาศัย การทำงานจากที่บ้านและการพักผ่อน ราคาเริ่ม 2.09 ล้านบาท และ Quintara MHy’ZEN พร้อมพงษ์ คอนโดฯ โลวไรส์ 2 อาคาร 276 ยูนิต ย่านพร้อมพงษ์ การเดินทางสะดวกสามารถไปทองหล่อ อโศก ได้อย่างง่ายดาย ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในบรรยากาศงานดีไซน์โครงการและพื้นที่ยูนิตซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการชงชาและการจัดสวนแบบญี่ปุ่น สะท้อนความงาม เรียบหรู สงบและเต็มอิ่มอยู่ภายใน ราคาเริ่ม 2.29 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสามโครงการ 4,150 ล้านบาท สำหรับตลาดกลุ่มเป้าหมายของโครงการ อยู่ในกลุ่ม mid-high ซึ่งเป็นคน Gen Y มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ชอบความเป็นส่วนตัวและต้องการใช้พื้นที่ของตัวเองอย่างคุ้มค่า การดีไซน์ฟังก์ชันใช้สอยภายในยูนิตทุกขนาดต้องสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้ชัดเจนแบบคนยุคใหม่ ทันสมัยและเชื่อมต่อโลกภายนอกด้วยเทคโนโลยี นอกจากนี้ รูปแบบการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่อยู่อาศัยจึงต้องเป็นพื้นที่รองรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ได้ทุกรูปแบบ เป็นได้ทั้งบ้าน ที่ทำงานและที่พักผ่อน การออกกำลังกายได้ ทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบได้ “ทำเลยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจซื้อ จุดนี้ถือเป็นความได้เปรียบของเราที่มีแลนด์แบงค์ในทำเลติดและใกล้รถไฟฟ้าและจุดเด่นอีกประการที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าทำเล คือ ความคุ้มค่า หากพิจารณาถึงทำเล ดีไซน์โครงการทันสมัยไฮเทคและฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยที่สร้างความสุขสร้างคุณภาพชีวิตเมืองอย่างสมบูรณ์ แต่สามารถจ่ายในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก นับว่าอีสเทอร์น สตาร์ ได้สร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันในตลาดคอนโดฯ ระดับกลางได้ดีที่สุด” ดร.ต่อศักดิ์ กล่าว อย่างไรก็ดียังมีตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบประเภทบ้านเดี่ยวซึ่งอีสเทอร์น สตาร์ ยังคงยึดหัวหาดทำเลพื้นที่ภาคตะวันออก จ.ระยอง โดยพัฒนาโครงการใหม่คือ โครงการบรีซ ชาเลต์ (Breeze Chalet) บ้านเดี่ยวสไตล์อังกฤษในทำเลบูรพาพัฒน์-สุขุมวิท ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ในปี 2566 รวม 3,100 ล้านบาท