อุตสาหกรรมตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเล

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (21 ก.พ.68) ราคาหุ้น บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL ณ เวลา 16:07 น. อยู่ที่ระดับ 26.25 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 3.96% สูงสุดที่ระดับ 27.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 25.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 192.36ล้านบาท โดยราคาหุ้น RCL ปรับตัวขึ้นแรงหลังรายงานผลการดำเนินงานงวดปี 67 สิ้นสุด 31 ธ.ค.67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้ บริษัทรายงานกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 9,170.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 510.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1,501.90 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทมีรายได้จากการเดินเรือที่เพิ่มขึ้น 8,828 ล้านบาท หรือ 34% จากทั้งปริมาณการขนส่งและอัตราค่าระวางที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยปี 67 มีปริมาณการขนส่งจำนวน 2,450,0,00 ตู้ เพิ่มขึ้น 263,631 ตู้ หรือ 12% ส่วนอัตราค่าระวางเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นโดยมีอัตราค่าระวางเฉลี่ยปี 67 อยู่ที่ 404 เหรียญต่อตู้ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 66 ซึ่งมีอัตราค่าระวางเฉลี่ยอยู่ที่ 343 เหรียญต่อตู้ ขณะที่ ต้นทุนการเดินเรือเพิ่มขึ้น 10% นอกจากนี้ในปี 67 บริษัทฯ มีรายได้จากการกลับการด้อยค่าของเรือเดินทะเลจำนวน 847 ล้านบาท แต่ในขณะเดียวกันได้มีการบันทึกประมาณการหนี้สินที่เกี่ยวกับข้อพิพาท (Provision for Dispute) จำนวน 450 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมามีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเล ได้แก่ ความผันผวนของอัตราค่าระวางเรือ ความแออัดของท่าเรือ รวมถึงภูมิศาสตร์การเมืองโลกที่ส่งผลต่อกาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มนโขบายต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธและมาตรการต่างๆ ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดและเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง รองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต ได้แก่ การขยายตลาดสู่พื้นที่ใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น ตะวันออกลาง อนุทวีปอินเดีย และแอฟริกาตะวันออก รวมถึงขยายการให้บริการตู้คอนเทนเนอร์แบบเข็น (Reefer Container) ซึ่งการณ์ว่าจะเติบโตมากขึ้น อีกทั้งปี 67 นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการพัฒนากองเรือ ด้วยการขายเรือเก่าในโอกาสที่เหมาะสมและการรับเรือใหม่ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและรองรับพลังงานทางเลือกเข้าสู่กองเรือจำนวน 5 ลำดังกล่าวข้างต้น รวมถึงเรือที่อยู่ระหว่างต่อสร้างอีกจำนวน 10 ลำ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อนโยบายทางด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ นอกจากนี้ ณ สิ้นปี 67 บริษัทฯ มีเรือที่ได้ทำสัญญาเช่าระยะยะยาว (Time Charter Hire) ออกไปจำนวน 9 ลำ สอคล้องกับดัชนี Time Charter ที่ยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อไปตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. 67 และความต้องการในการใช้เรือที่เพิ่มสูงขึ้นของอุตสาหกรรมขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเล ทำให้บริษัทฯ สามารถทำสัญญาเช่าระยะยาวที่อัตราค่าเช่าเรือยังอยู่ในระดับที่สูงได้ สุดท้ายนี้ บริษัทฯ มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/68 เมื่อ วันที่ 21 ก.พ. 68 ได้มีมติเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 67 จากกำไรข้างต้น รวมในอัตราหุ้นละ 2.50 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2567 ไปแล้วจำนวน 2 ครั้ง รวมในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท คงเหลือเป็นผลที่จะจ่ายอีกในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท ซึ่งการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 เม.ย. 68 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 พ.ค.68