อเล็กซานเดอร์ ชาลเลนเบิร์ก

ผู้สื่อข่าวรายงาน ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (19 พ.ย.) โดยปรับตัวลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 486.08 จุด ลดลง 1.62 จุด หรือ -0.33% และปิดตลาดสัปดาห์นี้ ลดลง 0.1% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,112.29 จุด ลดลง 29.69 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,159.97 จุด ลดลง 61.76 จุด หรือ -0.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,223.57 จุด ลดลง 32.39 จุด หรือ -0.45% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ในยุโรป หลังออสเตรียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขของเยอรมนีบ่งชี้ว่าอาจจะดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เช่นกัน นายอเล็กซานเดอร์ ชาลเลนเบิร์ก นายกรัฐมนตรีของออสเตรียเปิดเผยในวันศุกร์ว่า มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 10 วันจะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ (22 พ.ย.) และอาจขยายเพิ่มเป็น 20 วัน หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ และมีการกำหนดข้อจำกัดสำหรับประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ ORF ของออสเตรียรายงานว่า ออสเตรียจะบังคับประชาชนให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2565 เป็นต้นไป ด้านนายเยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนีเปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศมีความรุนแรง ซึ่งอาจจะต้องทำการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ หุ้นกลุ่มต่าง ๆ ที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มรถยนต์ รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ ร่วงลงราว 1.5-2.2% หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันซึ่งดิ่งลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวในยุโรป ท่ามกลางการกำหนดข้อจำกัดเพื่อควบคุมโควิด หุ้นสายการบินไรอันแอร์ของไอร์แลนด์ ร่วงลง 2.3% หลังประกาศความตั้งใจที่จะเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากตลาดหุ้นลอนดอน โดยระบุถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระสำหรับการจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้นแอร์เมสของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 5.2% สวนทางตลาดโดยรวม หลังมีรายงานข่าวว่า หุ้นของแอร์เมสจะถูกนำไปรวมในการคำนวณดัชนี Eurostoxx 50 ในระหว่างการทบทวนดัชนีในเดือนธ.ค.