ฺBOJ

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดตัวขึ้นมองเป็นแค่การรีบาวด์ระยะสั้น โดยคาดว่าเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้ามาซื้อเก็บหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็นต้น โดยช่วงที่ผ่านมาหุ้นไทยเคลื่อนไหวไม่ผ่าน 1,400 จุด และยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน จากเดือนม.ค. 67 ตลาดหุ้นไทย, ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีน ปรับตัวลงสวนตลาดอื่น จากภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ แต่ในเดือนก.พ. จนถึงปัจจุบันตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นมา 13% ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นมา 10% หลังจากที่ทางการจีนออกมาคุมเรื่อง Short sell และตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีขึ้น เงินเฟ้อพลิกมาเป็นบวก แต่ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นมาเพียง 1.7% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้านักลงทุนน่าจะรอดูการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 19 มี.ค. 67 คาดว่ารู้ผลว่าจะยุตินโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นกรณีพิเศษหรือไม่ หากเปลี่ยนทิศก็คาดว่าเม็ดเงินต่างชาติโยกออกมาเข้าตลาดหุ้นไทยบ้าง ขณะที่วันที่ 20 มี.ค. 67 จะรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกาะติด dot plot จำนวนครั้งในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังเท่าเดิมหรือไม่ สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ให้แนวต้าน 1,402 จุด แนวรับ 1,385 จุด ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,220.79 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,114.33 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,641.31 ล้านบาท ปิดที่ 115.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,526.11 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท ลดลง 0.25 บาท PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,499.08 ล้านบาท ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท