เกวิน นิวซัม

นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินจะช่วยสนับสนุนความพยายามด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยขณะนี้ความต้องการวัคซีนมีจำนวนมากกว่าปริมาณวัคซีนที่สามารถฉีดให้กับประชาชนได้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่คลินิกรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และคลินิกรักษาโรคประเภทอื่นๆ ต่างก็เผชิญกับความยากลำบากในการรับมือกับประชาชนที่แห่กันมาที่คลินิกเพื่อขอรับวัคซีน ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียกำลังระดมบุคลากรจากสำนักงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงให้กับประชาชน “เจ้าหน้าที่ทุกระดับของรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังทำงานกันอย่างเร่งด่วน เพื่อชะลอการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง รวมทั้งเร่งการตรวจหาเชื้อ และติดตามผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดจะถูกตามตัวมารับการฉีดวัคซีน รับการรักษา และดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ” นายนิวซัมกล่าว สำหรับการประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐแคลิฟอร์เนียมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่รัฐอิลลินอยส์ประกาศภาวะฉุกเฉินในช่วงเช้าวันจันทร์ (1 ส.ค.65) ตามเวลาสหรัฐ และรัฐนิวยอร์กประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ก.ค.65 เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง ส่วนศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเกือบ 6,000 รายใน 48 รัฐ โดยโรคฝีดาษลิงแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในสหรัฐหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกในเมืองบอสตันเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ แคลิฟอร์เนีย, อิลลินอยส์ และนิวยอร์ก รายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในอัตราส่วน 47% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในสหรัฐ โดยขณะนี้รัฐนิวยอร์กกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด และมีรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเกือบ 1,400 ราย ณ ช่วงเย็นวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ (1 ส.ค.65)