เงินกู้ระยะกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (15 มิ.ย. 66) ว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ได้คาดการณ์เอาไว้ แต่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,626.80 จุด เพิ่มขึ้น 218.38 จุด หรือ +1.13% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,230.45 เพิ่มขึ้น 1.46 จุด หรือ +0.05% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,493.69 จุด ลดลง 8.73 จุด หรือ -0.03% อีกทั้ง คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 65 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.00% อย่างไรก็ดี ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้ ด้านรัฐบาลนิวซีแลนด์ระบุในวันนี้ (15 มิ.ย. 66) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของนิวซีแลนด์ หดตัวลง 0.1% ในไตรมาส 1/66 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ขณะที่ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในธนาคารกลางที่ดำเนินวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเชิงรุกที่สุดในโลก ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 1/66 ของนิวซีแลนด์หดตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 หลังจากหดตัว 0.7% ในไตรมาส 4/65 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับแก้แล้ว โดยกรณีดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) สำหรับสถาบันการเงินบางแห่ง 0.10% จาก 2.75% สู่ 2.65% หลังลดอัตราดอกเบี้ย MLF สำหรับเงินกู้ 4 แสนล้านหยวนครั้งสุดท้ายในเดือนส.ค. 65 ทำให้ความเคลื่อนไหวในวันนี้เป็นการลดดอกเบี้ย MLF ครั้งแรกในรอบ 10 เดือน