เจนเซ่น ฮวง

คล้อยหลังไปช่วงปลายปี 2567 ก่อนที่ “เจนเซ่น ฮวง” ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง NVIDIA จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย ตอนนั้นมีข่าวฮือฮาที่เกี่ยวกับวงการดาต้าเซ็นเตอร์ จากกรณีกลุ่มทุนดูไบ EDGNEX Data Centers ในเครือ DAMAC ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับโลก ประกาศการลงทุนในโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 32,000 ล้านบาท ในประเทศไทย ผ่านการร่วมทุนกับบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN... ทำให้ราคาหุ้น PROEN ขึ้นโอเวอร์แอ็กติ้งทะลุไป 4 บาทเศษ จากแรงเก็งกำไรของนักลงทุน..!! จากวันนั้นถึงวันนี้ ผ่านมาแล้วเกือบ 6 เดือน กลับมาดูพื้นฐานของ PROEN ชักน่าเป็นห่วงแฮะ...จะเห็นว่า 2 ปีมานี้ รายได้ลดลงจนน่าใจหาย ก่อนหน้านี้มีรายได้ระดับพันล้านบาท จู่ ๆ ในปี 2566 รายได้ลดวูบเหลือแค่ 767.57 ล้านบาท และปี 2567 รายได้อยู่ที่ 716.38 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2566 เหลือแค่ 15.75 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนที่เห็นกำไรสุทธิในปี 2567 เบ่งขึ้นมาเป็น 29.23 ล้านบาท ก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะเป็นกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินโครงการศูนย์บริการข้อมูล (Data Center) จํานวน 38.59 ล้านบาท งั้นถ้าหักลบกลบหนี้ไป ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายก็ติดลบน่ะสิ..!? เข้าทำนองกำไรหลอกตานักลงทุนนะเนี่ย... เลยเป็นที่มาของมติบอร์ดเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2568 ไฟเขียวให้ขายหุ้นบริษัท ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์) จำนวน 50.57 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% มูลค่า 290 ล้านบาท ให้กับบริษัท แมกม่า โฮลดิ้ง คอมพะนี ลิมิเต็ด จำกัด วัตถุประสงค์ชัดเจน จะนำเงินไปชำระหนี้หุ้นกู้ และเงินกู้ธนาคาร จำนวน 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 190 ล้านบาท ยิ่งตอกย้ำว่าสถานะการเงิน PROEN กำลังสั่นคลอน... แต่เอ๊ะ...ถ้าจำไม่ผิด เมื่อกลางปี 2567 PROEN ก็เพิ่งโละขายโครงการศูนย์บริการข้อมูล (Data Center) ภายใต้ชื่อโครงการ OTT DC ให้แก่ บริษัท ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์ แอนด์ คลาวด์ เซอร์วิสเซส จํากัด (ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์) มูลค่ารวม 802.83 ล้านบาท ไปหยก ๆ... แล้วแพทเทิร์นก็เหมือนกันเด๊ะ...ตอนนั้นก็นำเงินที่ได้เกือบครึ่งไปใช้หนี้ แบ่งเป็นหนี้หุ้นกู้และเงินกู้ธนาคาร 320 ล้านบาท และหนี้สัญญาเช่าซื้อ 40 ล้านบาท ส่วนเงินที่เหลือจำนวน 264 ล้านบาท ก็วนกลับไปซื้อหุ้น “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” จากแมกม่า โฮลดิ้ง คอมพะนี ลิมิเต็ด จำนวนไม่เกิน 52.80 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5 บาท คิดเป็นสัดส่วน 30% นั่นแหละ... อ้าว...ถือหุ้น “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” หม้อข้าวไม่ทันดำเลย จะขายคืนให้กับแมกม่า โฮลดิ้ง คอมพะนี ลิมิเต็ด เสียแล้ว... โอเค...แม้การขายหุ้น “ซีชอร์ ดาต้า เซ็นเตอร์” คืน...PROEN จะมีส่วนต่างกำไร 26 ล้านบาท แต่เข้ามาถือแค่ 6 เดือน แล้วรีบร้อนขายคืนอย่างนี้ ไม่พ้นถูกตั้งข้อสังเกตว่า 1) PROEN คงมีปัญหาสภาพคล่อง ร้อนเงินมาก และ 2) การโยนหุ้นกันไปมาอย่างนี้ มันมีอะไรในกอไผ่อ๊ะป่าว..?? ไม่เท่านั้นช็อตที่น่าจับตา เมื่อขายศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่ต่างจากตัดเส้นเลือดใหญ่ไปแล้ว ก็มีโอกาสที่จะเห็นรายได้ลดลงอีกน่ะสิ แม้ PROEN จะนั่งยันนอนยันว่ายังมีพื้นที่ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์อีก 1 แห่งที่อาคารโทรคมนาคม บางรัก ซึ่งมีพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรก็เถอะ... อมพระมาพูด...ก็ไม่น่าจะมีใครเชื่อละมั้ง..?? ส่วนถามว่าหุ้นตัวนี้ยังน่าลงทุนหรือเปล่า..?? อย่าให้ต้องสาธยายเลย ราคาหุ้นที่ทรุดลงมาเหลือบาทเศษ น่าจะเป็นคำตอบแล้วนะ..!? ...อิ อิ อิ...