เจอโรม พวกเวล

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วันนี้ (30 ม.ค.68) ว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยมีการแกว่งตัว แต่มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นมา โดยให้แนวต้านอยู่ที่ 1,355-1,363 จุด และแนวรับอยู่ที่ 1,335 จุด โดยหลังจากประกาศผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกบเบี้ย โดยมีการปรับจะลดดอกเบี้ย เมื่อเงินเฟ้อลดถึง 2% ออกไป ขณะที่นายเจอโรม พวกเวล ส่งสัญญาณอาจไม่ได้เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย และคงโดยรวมเป็นกลาง ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี และ 30 ปี ยังคงมีความทรงตัว ด้านปัจจัยสำคัญภายในอย่างปัญหาการแก้หนี้ หนี้ครัวเรือน โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มียอดลงทะเบียนทั้งหมด 5 แสนราย ซึ่งยังไม่รวมกับที่มีการลงทะเบียนกับธนาคาร โดยสะท้อนภาพบวกกับกลุ่มธนาคารและกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากหากมีการปรับแก้โครงสร้างหนี้ จะทำให้คุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มธนาคารจะดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีกระแส BOI อนุมัติโครงการลงทุนมูลค่ารวม 1.7 แสนล้านบาท และโดดเด่นที่สุดคือโครงการ Data Center ของ TikTok มูลค่า 1.26 แสนล้านบาท รวมถึงมอง Entertainment Complex ค่อนข้างดี โดยคาดกฤษฎีกาจะสรุปความเห็นภายใน 50 วัน ขณะที่สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ใช้ฉบับ ครม. เป็นหลัก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนหุ้นเด่นวันนี้ คือ กลุ่มธนาคาร มีมุมมองบวกต่อ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้ประโยชน์จากโครงการแก้หนี้ครัวเรือน และมีโอกาสประกาศซื้อหุ้นคืน ส่วนกลุ่ม Infrastructure & Entertainment มีมุมมองบวกต่อ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้ประโยชน์จากความคืบหน้า พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และ Entertainment Complex อย่างไรก็ตามประเมิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP มองแนวโน้มไตรมาส 4/67 ทรงตัว แต่ผลงานไตรมาส 1/68 ราคาน้ำมันมีการปรับตัวขึ้นมาช่วงครึ่งเดือนแรกก่อนที่จะปรับตัวลงมา หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณเรียกร้องปรับลดน้ำมัน