เจ้าสัวซีพี

สืบเนื่องจากวานนี้ (24 เม.ย.62) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ได้มีการแจ้งข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงการลาออกของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท โดยให้เหตุผลว่า มีภารกิจมากขึ้นทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติงานให้กับบริษัทได้อย่างเต็มที่ และมีผลทันทีในวันดังกล่าว ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ นายธนินท์ เจียรวนนท์ หรือ เจ้าสัวซีพี ถึงเส้นทางการดำเนินธุรกิจก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของประเทศไทยอย่างทุกวันนี้ โดย นายธนินท์ เจียรวนนท์ เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2482 มีชื่อภาษาจีน ก๊กมิ้น เป็นบุตรชายคนที่ 5 ในบรรดาบุตรทั้ง 5 คนของ นายเอ็กชอ แซ่เจี๋ย ชาวจีนแต้จิ๋วอพยพ เริ่มทำงานเป็นครั้งแรกที่ร้านเจริญโภคภัณฑ์ เมื่ออายุได้ 19 ปี หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านพาณิชยกรรมที่ฮ่องกง โดยทำงานในตำแหน่งแคชเชียร์ นายธนินท์ เข้ารับการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จนจบการศึกษาในปี พ.ศ. 2492 และได้ไปศึกษาชั้นมัธยมจนจบในปี พ.ศ. 2494 จากโรงเรียนซัวเถา ประเทศจีน และอุดมศึกษาในปี พ.ศ. 2499 จากสถาบันศึกษาฮ่องกงวิทยาลัย รวมทั้งผ่านการศึกษาอบรมจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 1 ปี พ.ศ. 2532 ต่อมา นายธนินท์ ได้โยกย้ายไปทำงานที่สหพันธ์สหกรณ์ค้าไข่แห่งประเทศไทย และบริษัท สหสามัคคีค้าสัตว์ จำกัด ตามลำดับ กระทั่งเมื่ออายุ 25 ปี ได้กลับมาทำงานอีกครั้งที่เจริญโภคภัณฑ์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รับผิดชอบบริหารงานในตำแหน่งประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีว่าเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกลุ่มธุรกิจในเครือฯรวม 13 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร, กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยและเคมีเกษตร, กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ, กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร, กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง, กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์, กลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย, กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม, กลุ่มธุรกิจพลาสติก, กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มธุรกิจยานยนต์, กลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจการเงินและการธนาคาร สำหรับผลงานที่โดดเด่นของ นายธนินท์ คือ ทฤษฎีสองสูง ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ นายธนินท์ ได้นำมาเผยแพร่ในรายการ จับเข่าคุย เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2551 และ 8 เมษายน พ.ศ.5551 โดยสรุปสั้นๆ คือ ปล่อยให้ราคาสินค้าสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร แต่ก็ต้องปรับเงินเดือนขึ้นสูงตาม เพื่อให้มีความสมดุลกัน ทั้งนี้ นายธนินท์ ได้ถูกจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอัน 1 ของประเทศ ครั้งแรกในปี 2553 และล่าสุด นิตยสาร Forbes Thailand ประกาศรายชื่อ 50 อภิมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2561 โดยอันดับ 1 ยังคงเป็นตระกูล เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ยังคงครองอันดับ 1 ต่อจากปีก่อน ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 9.377 แสนล้านบาท