เตียงผู้ป่วย

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่า เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 66 ยังคงมีเป้าหมายที่จะขยายส่วนงานด้านสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสามารถรองรับการเข้าใช้บริการของประชาชนได้ทั่วถึง โดยเตรียมงบลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อขยายศูนย์ไตเทียม, ขยายเตียงบริการฟอกเลือด เพิ่มอีก 14 เตียง รวมเป็น 24 เตียง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงและขยายแผนกฉุกเฉินพร้อมทั้งเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายเตียงเพิ่มจากเดิม 142 เตียงเป็น 200 เตียง และขยายศูนย์บริการทางการแพทย์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้น และออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพภายใต้แบรนด์ของโรงพยาบาลเอกชัยเพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่ม สำหรับศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) คาดว่า บรรยากาศการกลับเข้ามาใช้บริการของลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนจะฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ โดยปี 66 ตั้งเป้าลูกค้ามาใช้บริการจำนวน 300 คู่ ส่วนการเปิดให้บริการโรงพยาบาลคูน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ช่วยสนับสนุนให้การเติบโตรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มั่นใจรายได้ปี 66 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% “ปี 66 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่บริษัทฯ รุกขยายศูนย์ให้บริการด้านต่าง ๆ อย่างเข้มข้นต่อเนื่องจากปี 65 โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและมีแผนที่จะขยายโครงการโรงพยาบาลเฉพาะทางเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทำให้มีขีดความสามารถในการรองรับการเข้ามาใช้บริการของคนไข้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาพรวมธุรกิจ ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” นายแพทย์อำนาจ กล่าว บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (20 ธ.ค. 65) ประเมินต่อ EKH ว่าแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 4/65 อาจอ่อนตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ยังเป็นระดับที่แข็งแกร่งจาก Utilization Rate ของเตียงผู้ป่วยในที่ยังสูง และคาดว่ามีแรงหนุนจากการบันทึกกำไรปรับมูลค่าเงินลงทุนใน KLINIQ ที่ถือหุ้นอยู่สัดส่วน 7.27% นอกจากนี้ คาด EKH จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากการผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 ของจีน ซึ่งจะเป็นบวกต่อธุรกิจ IVF ส่วนการเติบโตระยะยาวรองรับด้วยการลงทุนใหม่ๆ ทั้งโรงพยาบาลคูนและคาดว่าจะเห็นแผนการเพิ่ม Capacity ของโรงพยาบาลในอนาคต แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.30 บาท ส่วนสัญญาณเทคนิคให้แนวรับ 8.10-8 บาท ขณะที่แนวต้าน 8.60-8.70 บาท อย่างไรก็ตามราคาหุ้น ณ วันที่ 19 ธ.ค. 65 ปิดที่ระดับ 8.20 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25.27 ล้านบาท