เที่ยวไทยคนละครึ่ง

วันนี้ (27 มี.ค.68) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงโลว์ซีซั่น โดยภาครัฐจะร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทย 50% สำหรับจังหวัดเมืองรอง และ 40% สำหรับเมืองท่องเที่ยวหลัก โดยมีวงเงินสนับสนุน สูงสุด 3,000 บาทต่อคืนต่อคน และจำกัดสิทธิไม่เกิน 10 สิทธิ์ต่อคน “รัฐบาลต้องการให้โครงการนี้กระจายเม็ดเงินไปสู่ทุกจังหวัดจริง ๆ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้จัดสรรงบประมาณ 3,000 ล้านบาท จากงบกลางปี 2568 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศ” นายสรวงศ์ กล่าว อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่ครอบคลุมส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน โดยจะใช้สิทธิ์ได้เฉพาะค่าใช้จ่ายด้านที่พักและอาหารเท่านั้น ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียม เสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโดยเร็ว เพื่อให้โครงการสามารถเปิดให้จองสิทธิ์ได้ทันในช่วงเดือนพฤษภาคม - กันยายน 2568 โดยคาดว่าจำนวน 1 ล้านสิทธิ์ในเฟสแรก จะถูกจองเต็มอย่างรวดเร็ว นายสรวงศ์ กล่าวถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวยังคงเป้าหมายไว้ที่ 39-40 ล้านคน สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท โดยในไตรมาสแรกของปี (มกราคม-มีนาคม) คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 9 ล้านคน แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะปรับตัวลดลงจากเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงตรุษจีนที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่าปกติ ประกอบกับปัจจัยด้านความเชื่อมั่น หลังจากข่าวกรณี “ซิงซิง” นักแสดงชาวจีนหายตัวไป ส่งผลให้ตลาดจีนชะลอตัว อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมแผนดึงอินฟลูเอนเซอร์จีนมาโปรโมตการท่องเที่ยวไทย เพื่อกระตุ้นตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ ขณะที่ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีน ในช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 23 มี.ค. 68 จะอยู่ที่ 1.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่มีจำนวน 1 ล้านคน แต่ตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย ททท. มั่นใจว่าตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลางจะเข้ามาทดแทนตลาดจีนที่ชะลอตัวได้ ทำให้เป้าหมาย 40 ล้านคนในปีนี้ยังคงเป็นไปได้