เบิกจ่ายล่าช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีรายงานว่า สำนักงบประมาณ ส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 10 กันยายน 2563 ถึงหน่วยงานราชการทั้งหมดทั่วประเทศ เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ไปพลางก่อน และวิธีปฏิบัติในกรอนุมัติเงินจัดสรร การบริหารงบประมาณรายจ่าย และการหักงบประมาณรายจ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ไปพลางก่อน เนื่องจากงบรายจ่ายปี 64 ล่าช้า บังคับใช้ไม่ทัน 1 ต.ค.นี้นั้น ล่าสุดทางด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องงบประมาณปี 64 มีความล่าช้าว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กำลังเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 16-18 ก.ย.นี้ และจะเข้าวุฒิสภาพิจารณาในวันที่ 21 ก.ย. หลังจากนั้นจะใช้เวลาอีก 7 วัน ในการพิมพ์ร่างกฎหมายก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งอาจจะช้าไป 1 เดือนจากปีงบประมาณใหม่ หากเทียบกับงบประมาณฯ ปี 63 ที่ล่าช้าไปถึง 6 เดือน ดังนั้น การล่าช้าไป 1 เดือนไม่น่ามีปัญหามาก อะไรที่เป็นโครงการต่อเนื่องและอะไรที่ซ้ำกับปี 63 สามารถใช้งบฯ ปี 63 ไปพลางก่อน “อาจจะช้าไป 1 เดือน เลยปีงบประมาณใหม่ไป ถ้าเทียบกับงบฯปี 63 เลยปีงบประมาณไป 6 เดือน แต่ตอนนั้นยากลำบากพอสมควร การล่าช้าไป 1 เดือนไม่น่ามีปัญหามาก สามารถใช้งบฯปี 63 ไปพลางก่อนได้” นายวิษณุ กล่าว ส่วนการใช้งบฯปี 63 ไปพลางก่อนจะสามารถรองรับเบี้ยผู้สูงอายุได้กี่เดือนนั้น นายวิษณุ ระบุว่า สำนักงบประมาณจะกำหนดว่า ใช้งบฯได้กี่เดือน และที่ผ่านมาเบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ กระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลางได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ทั้งนี้ จะกระทบกับการเลือกตั้งท้องถิ่นในปลายปีด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับงบฯเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ได้แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกตั้งไว้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งงบฯไว้ 800 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้มีอยู่แล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งจำนวนหลายหมื่นล้านก็กระจายอยู่ตามท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งถ้าเลือกตั้งเฉพาะ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ก็ใช้งบประมาณจำนวน 2,400 ล้านบาท และทางอบจ.ต้องใช้งบฯของตัวเองที่รัฐบาลจัดสรรให้ ซึ่งส่วนนี้อาจจะไม่มี หากเลือกตั้งในเดือนตุลาคมอาจจะกระทบ แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาดังกล่าวก็ไม่มีปัญหา เพราะหากเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป งบประมาณก็ออกแล้ว