เพชรหัวหิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 พ.ค. 67) ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการพัฒนาสนามบิน เพื่อรองรับ International Flights ณ ท่าอากาศยานหัวหิน ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดคมนาคม ร่วมคณะ เมื่อมาถึงนายกฯได้ดูจุดจำหน่ายและจุดตรวจบัตรโดยสาร ก่อนขึ้นชั้น 2 ดูจุดตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเข้ามาเยี่ยมชมภายในอาคารรับรองผู้โดยสารขาออก ระหว่างการตรวจเยี่ยม นายกฯได้สอบถามถึงความต้องการของผู้โดยสารที่จะใช้บริการสนามบินดังกล่าว พร้อมถามถึงมาตรฐานความพร้อมและการดำเนินการแล้วเสร็จ โดยอยากให้แล้วเสร็จในปลายปีหน้า จะได้รองรับกับปีการท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ และสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวมาอยู่ประเทศไทยนานขึ้น จึงขอให้ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดูในเรื่องดีมานด์ ส่วนการสร้างขยายไปแล้วจะต้องคุ้มกับงบประมาณ อย่างสนามบินเชียงใหม่ที่มีการขยาย และมีไฟลต์บินจากมาเลเซียและที่อื่นเข้ามาใช้บริการ และขอให้พิจารณาเรื่องการเปลี่ยนชื่อสนามบินหัวหิน เป็นสนามบินเพชรหัวหิน จะได้ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจได้ว่ามันใกล้เพชรบุรี หากมีไฟลต์บินลงมากขึ้นอาจจะเปลี่ยนใช้ชื่อนั้นได้ จะทำให้ขยายเรื่องการท่องเที่ยว และการเจริญเติบโตของจังหวัดเพชรบุรีด้วย เพราะอำเภอหัวหินถือเป็นเมืองน่าเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์เยอะ จากนั้นนายกฯฟังบรรยายสรุปแผนการพัฒนาท่าอากาศยานหัวหิน พร้อมกล่าวว่า จุดประสงค์ที่มาดูในวันนี้เพราะตระหนักถึงศักยภาพสนามบินนี้ว่ายังไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มที่ ปัจจุบันนี้มีอยู่ในแผนงานเรียบร้อยว่าจะมีการขยายรันเวย์ให้กว้างขึ้นและจะรองรับเครื่องบินที่มาจากต่างประเทศ โดยมีการขยายไหล่ทางลอดอุโมงค์ ซึ่งปัจจุบันนี้น่าจะทำเสร็จภายในอีก 2 ปี แต่ให้ปลัดกระทรวงคมนาคมดูจะสามารถร่นระยะเวลาการก่อสร้าง ให้เสร็จภายในสักปีครึ่ง เพื่อให้เสร็จในไตรมาส 4 ปีหน้าเป็น High Season ฤดูการท่องเที่ยว นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหนือสิ่งอื่นใดสนามบินนี้มีศักยภาพในการที่จะขยายออกไปและทำให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศสามารถมาประชุมหรือจัดนิทรรศการต่างๆ ได้ ที่มาดูวันนี้เพื่อที่จะขยายสนามบินนี้ให้กว้างและใหญ่ขึ้น สามารถรองรับ ไฟลต์จากต่างประเทศได้ ในอดีตก่อนที่จะมีโควิดสามารถรองรับไฟลต์ต่างประเทศได้ แต่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) บอกว่ายังไม่ได้มาตรฐานพอ ฉะนั้นจากการยกเลิกและจะเปิดใหม่ก็ต้องขออนุมัติใหม่ จึงต้องมีการขยายออก หากมีการเพิ่มความปลอดภัยใช้เวลาปีขึ้นน่าจะเสร็จได้ และสามารถทำให้สนามบินนี้รองรับไฟลต์จากต่างประเทศได้.