เพิ่มทุน PPO

นายภาสิต ลี้สกุล ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า จากที่บริษัทได้กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering-PPO) ระหว่างวันที่ 13-17 มกราคม 2568(รวม 5 วันทำการ) ตามอ้างถึงแล้วนั้น ซึ่งตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหาร หรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริหาร หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณากำหนดและแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ในการเสนอหุ้นสามัญเพิ่มทุน แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นเดิมหลายรายถึงความไม่สะดวกในการชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในช่วงวันดังกล่าว ในการนี้บริษัทฯจึงขอขยายวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุน PPO เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้ถือหุ้น และสร้างโอกาสให้กับบริษัทฯในการได้รับเงินลงทุนจากการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวมากขึ้นโดยขยายวันจากเดิมชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 13–17 มกราคม 2568(รวม 5 วันทำการ) โดยเปลี่ยนเป็นวันที่วันที่ 13-17,20-24 และ 27-31 มกราคม 2568 (รวม 15 วันทำการ) ทั้งนี้บริษัทฯคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและคาดหวังว่าจะได้รับเงินจากการจำหน่ายหุ้น สามัญเพิ่มทุนตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องขยายระยะวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญ เพิ่มทุนดังกล่าว ส่วนรายละเอียดและเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน อาทิ ราคาเสนอขายจำนวนหุ้นที่เสนอขาย วิธีการชำระเงิน ใบจองซื้อหุ้น เป็นต้น ยังคงเป็นไปตามเดิมที่กำหนดไว้ทุกประการ อนึ่งเมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 คณะกรรมการมีมติเพิ่มทุนหุ้นสามัญจำนวน 1,234,616,450 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.50 บาทต่อหุ้น โดยจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นสามัญโดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (PPO) จำนวน 285,331,752 หุ้น ในอัตราส่วน 3.50 เดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ราคาจองซื้อ 2.40 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ได้จัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวนหุ้นทั้งหมด 482,000,000 หุ้น ได้แก่ 1.กลุ่มเจ้าหนี้ตามโครงการแปลงหนี้เป็นทุนจำนวน 125,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1% ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน ในราคาจองซื้อ 2.40 บาทต่อหุ้น, 2.นายพิสิทธิ์ แซ่ลิ้ม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวนหุ้น 42,000,000 หุ้น คิดเป็น 0.34%ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน ในราคาจองซื้อ 2.40 บาท และ 3.กองทุน LDA Capital Limited หรือนิติบุคคลในเครือ จำนวน 315,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.53%ต่อทุนชำระแล้วหลังเพิ่มทุน ราคาจองซื้อ 2.40 บาท ส่วนจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือ 467,284,698 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ