เม็ดเงิน ThaiESG

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (16-20 ธ.ค.67) จากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS โดยประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ “ฟื้นตัว” โดยมีแนวต้าน 1,455-1,478 จุด และแนวรับ 1,415-1,421 จุด โดยประเมินดัชนีได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงิน ThaiESG ลดหย่อนภาษีเร่งช่วงส่งท้ายปี ส่วนปัจจัยมหภาคที่ตลาดติดตามคือ การประชุมธนาคารกลางต่างๆ ซึ่งผลประชุมจะสอดคล้องที่ตลาดคาด คือสหรัฐฯปรับลด -25 bps, ประเทศไทยและญี่ปุ่นคงดอกเบี้ย แต่แนะนำติดตามมุมมองดอกเบี้ยและเศรษฐกิจปี 2568 ที่น่าจะเริ่มรวมผลกระทบนโยบาย Trump 2.0 โดยรวมคาดหุ้น Domestic ที่เป็นเป้าหมายกองทุนระยะยาวในประเทศจะเด่น อาทิ ADVANC, CPALL, BJC, HMPRO, KBANK, SCB, KTB, GULF, BTS, AOT ผสานหุ้นในธีม China Plays มีแรงหนุนรายงานเศรษฐกิจเห็นการฟื้นจากมาตรการช่วงก่อนหน้า ส่วนหุ้นเด่นสัปดาห์นี้แนะนำ ADVANC, BANPU, KBANK โดย ADVANC แนะนำราคาเป้าหมาย 305 บาท หุ้นอยู่ใน Upcycle+คาดเป็นเป้า Domestic Long term fund ส่วน KBANK แนะนำราคาเป้าหมาย 180 บาท เศรษฐกิจฟื้น+ผลประชุมธนาคารกลางจะเป็นปัจจัยหนุน และ BANPU แนะนำราคาเป้าหมาย 7.5 บาท ลุ้นเข้า SET50 +ลุ้นราคาโภคภัณฑ์ตอบรับจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยในสหรัฐวันที่ 19 ธ.ค. ติดตามประชุม FOMC คาดลดดอกเบี้ยนโยบาย -25 bps สู่ 4.25% - 4.5% และติดตาม GDP ไตรมาส 3/67 (ครั้งที่ 3) คาด +2.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และวันที่ 20 ธ.ค.ติดตามรายงานความเชื่อมั่น ม. มิชิแกน ไม่มีคาดการณ์ ด้านปัจจัยในยุโรปวันที่ 16 ธ.ค. ติดตาม Flash PMI ผลิตเดือนธ.ค. และภาคบริการ ไม่มีคาดการณ์ ส่วนในจีนวันที่ 16 ธ.ค. ติดตามการรายงานกิจกรรมเศรษฐกิจจีนเดือน พ.ย. ได้แก่ 1). ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมคาด +5.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, 2)ดัชนีค้าปลีกคาด 5.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3) การลงทุนสินค้าคงทนคาด +3.5% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และ 4) การลงทุนภาคอสังหาไม่มีคาด ด้านปัจจัยในประเทศวันที่ 18 ธ.ค. ติดตามประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ 2.25% และจับตา Domestic Long Term Fund: คาดเม็ดเงินลงทุนระยะยาวในประเทศช่วงท้ายปีจะเร่งขึ้น ขณะที่ทิศทาง Fund Flow สัปดาห์ที่แล้วเงินทุนไหลออก(หุ้น+พันธบัตร) โดยภูมิภาค Asia (exJ) เงินไหลออก 22.1 ล้านเหรียญฯ ส่วนไทยเงินไหลออก 357.5 ล้านเหรียญฯ โดยขายหุ้น 174.4 ล้านเหรียญฯ และขายพันธบัตร 183.1 ล้านเหรียญฯ