เรจินอลด์ ไดเออร์

หุ้น “อดานี กรุ๊ป” ของโกตัม อดานี มหาเศรษฐีอินเดีย ไหลรูดไม่หยุด และจนถึงวันพุธที่ผ่านมา ขาดทุนไปถึง 72,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากวันที่ 24 มกราคม บริษัท “ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช” ของ “นาธาน แอนเดอร์สัน” บริษัทวิจัยและลงทุนอเมริกัน ที่มีชื่อเสียงมาจากการทำชอร์ตเซล โยนระเบิดลูกใหญ่พุ่งเป้าเข้าใส่อย่างไม่ทันตั้งตัว ฮินเดนเบิร์ก ระบุว่า บริษัทได้ทำชอร์ตเซลหุ้นต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัท อดานี เพราะมีการปั่นหุ้นและฉ้อโกงทางบัญชีอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมทั้ง แสดงความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินที่สูงลิ่ว และชี้ว่า หุ้นบริษัทจดทะเบียนของอดานี 7 แห่งมีแนวโน้มดิ่ง 85% เพราะ มีการประเมินมูลค่าที่สูงเสียดฟ้า โกตัมและบริษัทของเขา ได้พยายามปฏิเสธรายงานดังกล่าวว่า ไม่มีมูลความจริง และยืนยันว่า ได้เปิดเผยข้อมูลตามระเบียบอยู่เสมอและถึงขนาดตอบโต้ว่า การกล่าวหานี้เป็นการโจมตีอินเดีย เหมือนกับเหตุการณ์สังหารหมู่ เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2462 เมื่อนายพลจัตวาและจอมพล เรจินอลด์ ไดเออร์ สั่งให้กองกำลังของกองทัพบริติชอินเดียยิงชาวอินเดียที่ปราศจากอาวุธในสวนสาธารณะ จลิยานวาลาบาคในเมืองอมฤตสา รัฐปัญจาบ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 379 รายและบาดเจ็บมากกว่า 1,200 คน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเอนเอียงไปทาง “เชื่อ” และ “หวั่นวิตก” กับรายงานของ ฮินเดนเบิร์กมาก แม้ว่าเพิ่งจะให้การต้อนรับการระดมทุนของบริษัท “อดานี เอ็นเตอร์ไพรส์” ไปถึง 2,500 ล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคาร แต่ในที่สุด โกตัมเองก็ต้องตัดสินใจยกเลิกการขายหุ้นในวันรุ่งขึ้น การต่อสู้ของโกตัมกับนาธาน ไม่เพียงแต่ทำให้สินทรัพย์ของโกตัมหายวับไปกับตาและหลุดร่วงจากการเป็นมหาเศรษฐีท็อปเทนของโลก ลงไปอยู่ใน อันดับที่ 11 ของดัชนี Bloomberg’s Billionaires Index มันยังทำให้นักลงทุนเล็งเห็นความเสี่ยงต่อภาคธนาคารทั้งในอินเดียและธนาคารทั่วโลก เนื่องจากกลุ่มบริษัท อดานีได้ใช้เงินกู้จากธนาคารจำนวนมากขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท ธนาคารและบริษัทใน อินเดียที่มีการพูดถึง ได้แก่ สเตท แบงก์ ออฟ อินเดีย บริษัท ไลฟ์ อินชัวรันซ์ ธนาคาร ยูเนียน แบงก์ ออฟ อินเดีย ธนาคารไอซีไอซีไอ และแอกซิส ส่วนธนาคารต่างชาติ ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มอดานีในการซื้อกิจการและทำโครงการใหญ่ ๆ ต่าง ๆ ได้แก่ บาร์เคลย์ ดอยช์ แบงก์ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ มิซูโฮ และธนาคารระหว่างประเทศอื่น ๆ อีกหลายแห่ง นักวิเคราะห์บอกว่า กลุ่มอดานีกู้เงินกับธนาคารในประเทศลดลง แต่ช่วงหลังไปกู้เงินเพิ่ม เพื่อทำธุรกิจใหม่และเข้าซื้อกิจการจากแหล่งเงินกู้ต่างประเทศ และหนึ่งในดีลใหญ่ล่าสุด คือ การซื้อธุรกิจของโฮลซิม ในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเงิน 10,600 ล้านดอลลาร์ เมื่อกลางปี 2565 นอกเหนือจากธนาคารแล้ว ยังมีนักลงทุนจากตะวันออกกลางที่เข้าไปลงทุนร่วมกับอดานี เช่นกัน โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัท อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง โค ในอาบู ดาบี ได้ประกาศลงทุน 381 ล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์ยังมีความเห็นเป็นสองฝ่ายว่า การต่อสู้ครั้งนี้ โกตัม หรือนาธานจะชนะ ส่วนหนึ่งก็เชื่อมั่นว่า โกตัมมีสายสัมพันธ์และอิทธิพลมากกว่าที่จะพาบริษัทให้รอดพ้นจากวิบากกรรมครั้งนี้ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เชื่อว่า การทำชอร์ตเซลของนาธานในช่วงที่ผ่านมาทำให้หุ้นร่วงโงหัวไม่ขึ้นมาแล้วหลายตัว ต้องรอดูว่าโกตัม จะต้านศึกครั้งนี้ได้อีกนานเท่าไหร่และจะรักษาตำแหน่งมหาเศรษฐี ที่รวยสุดในเอเชียที่เป็นรองแค่ อีลอน มัสก์ เท่านั้น ไว้ได้หรือไม่ หรือจะหลุดร่วงจาก อันดับที่ 11 ลงไปอีก และหากโกตัมแพ้ นั่นหมายถึงว่า ธนาคารและนักลงทุนของอดานีกรุ๊ป จะบาดเจ็บสาหัสไปตาม ๆ กันอย่างแน่นอน