เลือกตั้ง อบจ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ม.ค.68) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 ตั้งแต่เวลา 08:00-17:00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีชื่ออยู่ "การออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นหน้าที่สำคัญในการส่งเสริมประชาธิปไตย และมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของชุมชนท้องถิ่นของเรา" สำนักงาน กกต. ระบุ สำหรับเอกสารที่ใช้แสดงตน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการลงคะแนนเสียง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องนำเอกสาร หรือหลักฐานที่แสดงตนต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง บัตรประจำตัวประชาชน (หมดอายุได้) หนังสือเดินทาง (Passport) ใบขับขี่ (Driver’s License) บัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (มีภาพถ่าย เลขประจำตัวประชาชน) แอปพลิเคชันที่ใช้แสดงตน เช่น บัตรประชาชนดิจิทัล (ThaID), ใบขับขี่ออนไลน์, บัตรประจำตัวคนพิการออนไลน์ ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค.68 และในช่วงหลังวันเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 2-8 ก.พ.68 ตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 1/8 หรือทำเป็นหนังสือซึ่งอย่างน้อยต้องระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้านให้ชัดเจน พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่าไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ด้วยเหตุใด โดยยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยตนเอง หรือทำเป็นหนังสือมอบหมายให้บุคคลอื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือแจ้งเหตุผ่าน เว็บไซต์ สำนักงาน กกต. www.ect.go.th หรือแอปพลิเคชัน Smart Vote หรือทางเว็บไซต์ของสำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย www.bora.dopa.go.th ทั้งนี้สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ได้ที่เว็บไซต์สำนักงาน กกต. หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการ สายด่วน 1444 โดยวันนี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (ประธาน กกต.) จะเดินทางไปสังเกตการณ์การเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง นายก อบจ. ในพื้นที่จ.เชียงใหม่, ลำพูน และลำปาง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง อบจ. เชื่อว่า ข้าราชการทราบหน้าที่ของตนเอง ดังนั้นจึงไม่น่ากังวลใด ๆ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้สั่งการให้ดูแลในท้องที่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากตนพูดในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ได้หาเสียงอย่างเต็มที่ และหวังว่าคนของพรรคเพื่อไทยจะได้มีโอกาสดูแลประชาชนในท้องถิ่นให้ใกล้ชิดมากขึ้น ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “ผู้ช่วยหาเสียง” ของพรรคเพื่อไทย มีการหาเสียงอย่างดุเดือดนั้น นายกรัฐมนตรี หัวเราะและตอบว่า “ผู้ช่วยหาเสียงของดิฉันดุเดือดพอสมควรใช่ไหมคะ ตัวจริงก็ใจดีจะตาย หาเสียงทีไรดุเดือดทุกที งงเหมือนกัน” นางสาวแพทองธาร ยังได้กล่าวถึงการหาเสียงที่มีการกระทบกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า รัฐบาลทำงานร่วมกันในการบริหารประเทศเพื่อผลักดันกฎหมาย ผลักดันสิ่งต่าง ๆ ให้กับประชาชน แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นเราเป็นคนละพรรคกัน ก็คือชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลหลายพรรค “การลงแข่งเลือกตั้งก็คือการกีฬา เหมือนการกีฬาเลย ใครส่งทีมไหนก็เชียร์ทีมของตัวเองให้ชนะ ไม่จำเป็นว่าจบจากการกีฬาต้องโกรธกันเกลียดกัน อย่างการเมืองเนี่ยเราสู้ด้วยประเด็นก็สู้กัน ออกจากห้องก็นั่งทานข้าวกันเหมือนเดิม นี่แหละค่ะอย่ามองการเมืองว่าเราจะต้องแบบมองหน้ากันไม่ได้เลย ทุกพรรคมีสิทธิ์ที่จะส่งและเต็มที่กับการหาเสียง” นายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมแสดงความมั่นใจว่าไม่มีปัญหากับพรรคภูมิใจไทย หลังวาทะ “ไล่หนูตีงูเห่า” ถูกหยิบขึ้นมาใช้ระหว่างการหาเสียงท้องถิ่นอีกครั้ง