เวนดิ้งพลัส

เอ๊ะ...จู่ ๆ เห็นชื่อบริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH โผล่มา ไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าใด..!? จะว่าเป็นบริษัทไอพีโอน้องใหม่ ก็ไม่ใช่นี่หน่า... ที่ไหนได้...เป็นชื่อใหม่ของบริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP ซึ่งทำธุรกิจผลิตบัตรพลาสติกและบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลนั่นเอง... ถ้ายังจำกันได้ เมื่อช่วงกลางปีก่อน TBSP ถูกบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ของ “เฮียชูเกียรติ รุจนพรพจี” รวบหัวรวบหาง ด้วยมูลค่า 1,022 ล้านบาท จนขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นเบอร์ 1 สัดส่วน 73.54% แทนบริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นเบอร์ 2 สัดส่วน 25%... หลังจากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ ด้วยการเติมธุรกิจตู้จำหน่ายเครื่องดื่มและสินค้าอัตโนมัติ ในนามบริษัท เวนดิ้งพลัส จำกัด (VDP) เข้ามา และตามมาด้วยการเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่เป็น บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH ในปัจจุบัน... จะเห็นว่าตั้งแต่ PTECH ได้ธุรกิจใหม่เข้ามาเติม ทำให้ปัจจุบันมีธุรกิจ 2 ขาด้วยกัน ขาแรก ธุรกิจผลิตบัตรพลาสติกและบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนอีกขา เป็นธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ก็เห็นถึงพัฒนาการด้านผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะงบไตรมาส 2/2565 ที่เติบโตก้าวกระโดด มีกำไรสุทธิ 79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท ที่จริงในไตรมาสนี้ รายได้จากการขายและบริการลดลงนะ อยู่ที่ 261 ล้านบาท ลดลง 37.2% แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจบัตรและบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล ลดลง 10.6% เหลือแค่ 60 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจการพิมพ์เอกสารปลอดการทำเทียม ลดลงกว่า 98% เหลือแค่ 5 ล้านบาท แต่มาโป่งที่รายได้จากธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ จำนวน 195 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับรู้เข้ามาเต็มไตรมาส... เท่ากับว่า PTECH ก็ได้ตู้ดันกำไรน่ะสิ.!! อ้อ...อีกตัวที่โป่งขึ้นมา เป็นรายได้จากการขายสินทรัพย์ จำนวน 113 ล้านบาท ซึ่งก็น่าจะเป็นการขายธุรกิจสิ่งพิมพ์ และอื่น ๆ กลับคืนให้กับ TKS ตามเงื่อนไขสัญญานั่นเอง ด้านต้นทุนจากการขายและการให้บริการ ก็ลดลง 114.4% อยู่ที่ 178 ล้านบาท... ขณะที่งบงวด 6 เดือนแรกปีนี้ PTECH ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท ดังนั้น ถ้า PTECH ไม่สะดุดยอดหญ้าไปเสียก่อน ปีนี้ก็น่าจะเห็นการเทิร์นอะราวด์สักที...หลังจากปล่อยให้นักลงทุนทนเห็นการขาดทุนซ้ำซาก 2 ปีซ้อน พร้อม ๆ กับการมาของโควิดนั่นแหละ โดยปี 2563 ขาดทุน 13 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,639 ล้านบาท และปี 2564 ขาดทุน 401 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,418 ล้านบาท... ก็ภาวนาให้การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ จะทำให้ PTECH เติบโตแข็งแกร่งตลอดไป... และกลายเป็นเครื่องจักรผลิตกำไรป้อนให้กับแม่อย่าง SABUY ตามเป้าหมายที่ “เฮียชูเกียรติ” วาดฝันเอาไว้ละกัน..!!?? ...อิ อิ อิ...