เสนอชื่อ

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคมีมติเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น รมว.พลังงาน นายอนุชา นาคาศัย รมว.อุตาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมต.ประจำสำนัก เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พิจารณาในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะที่ตำแหน่งรมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ทางพรรคไม่เสนอชื่อบุคคลใด ทั้งนี้ ยังต้องรอที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ลงมติต่อไป ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวก่อนการประชุม กก.บห.พรรคว่า วันนี้จะมีการหารือเรื่องตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นหลัก แต่ก่อนประชุมดังกล่าวจะมีการประชุม ส.ส. เพื่อให้ ส.ส.มีส่วนร่วมกับการวางตัวรัฐมนตรี โดยจะเป็นการประชุมลับและเสนอชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาปรับ ครม. นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า การปรับครม.ครั้งนี้จะไม่เกิดความวุ่นวาย เพราะทุกอย่างคุยกันด้วยเหตุและผล จะไม่มีสิ่งที่เกิดความไม่เข้าใจกันแน่นอน เนื่องจากเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ที่จะบริหารจัดการและทำความเข้าใจกับลูกพรรคได้ ส่วนที่มีกระแสว่าพรรคจะเสนอชื่อนายสุริยะ เป็นรมว.พลังงานนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้สรุป และกลุ่มสามมิตรไม่ได้มีการผลักดันใครเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้งหมดขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค แม้หากสรุปแล้วก็ไม่สามารถเปิดเผยโผรัฐมนตรีได้ ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า รมว.พลังงาน เป็นโควตาของพรรคหรือไม่ โดยเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะหารือ ส่วนจะเป็นคนนอกหรือคนในก็ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะหารือกันเช่นกัน เพราะหากพูดไปก่อน อาจก่อให้เกิดความร้าวฉานในพรรคขึ้นได้ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับโควตาของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา และยังปฏิเสธให้ความเห็นกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค สนับสนุนนายสุริยะ เป็น รมว.พลังงาน โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดต่อสาธารณะชน แต่ยอมรับมีหลุดกันบ้างก็ต้องให้อภัยกัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า "กลุ่มสามมิตร" จะได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการครบ 3 คนหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต และย้ำว่ากลุ่มสามมิตรไม่มีแล้ว มีแต่พรรคพลังประชารัฐ หากพูดไปจะกลายเป็นความร้าวฉาน อาจก่อให้เกิดความหมั่นไส้ จึงขอสงวนความเห็นไว้ ส่วนนายอนุชา ในฐานะเลขาธิการพรรค จะได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าปกติจะเป็นธรรมเนียบปฏิบัติ แต่ว่าพรรคพลังประชารัฐอาจไม่ใช่ เพราะเป็นพรรคการเมืองใหม่ต้องพูดกันด้วยความเข้าใจ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคส่งรายชื่อไปถึงมือนายกรัฐมนตรีแต่ผลที่ออกมาอาจจะไม่เป็นไปตามบัญชีพรรคจะเกิดรอยร้าวหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเป็นเพียงผู้นำเสนอ แต่การตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ยืนยันว่าการที่พรรคเสนอโผรายชื่อ ครม. ไม่ได้เป็นการกดดันนายกรัฐมนตรี แต่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ถ้าไม่เสนอชื่อขึ้นไปก็จะถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่ไม่สมบูรณ์ ส่วนที่มีการมองกันว่าภาพลักษณ์ที่ออกมา เหมือนเป็นการแย่งเก้าอี้ รมว.พลังงานกันนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากไม่สนับสนุนข่าวปล่อย ก็จะไม่มีภาพนั้นออกมา และการที่ไปสนับสนุน คือความล้มเหลวของการสื่อสาร