เหตุก่อการร้ายในกรุงลอนดอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงลอนดอน เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (หรือ 04.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย) โดยผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เห็นรถตู้สีขาวพุ่งเข้าชนคนที่เดินอยู่บนสะพานลอนดอนบริดจ์ 5-6 คน ซึ่งมีคนได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 4 คน และในจำนวนคนเจ็บมีผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสรวมอยู่ด้วย 2 คน ส่วนผู้อยู่ให้เหตุการณ์รายอื่นระบุว่า ได้ยินเสียงปืนดังตามมา และเห็นผู้ก่อเหตุ 3 คนวิ่งลงจากรถตู้พร้อมกับถือมีดไล่แทงคนบนถนน รวมถึงบริเวณหน้าตลาดโบโรมาร์เก็ตซึ่งเป็นย่านร้านอาหารและบาร์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ด้านตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พกอาวุธ ได้เข้าประชิดตัวผู้ต้องสงสัย และยิงผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตภายใน 8 นาที โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 รายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกแทงขณะที่พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ แต่อาการไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ชีวิต อย่างไรก็ตาม การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ นับจากเหตุระเบิดโจมตีหลังคอนเสิร์ตในเมืองแมนเชสเตอร์ ที่มีผู้เสียชีวิต 22 คน และเกิดขึ้นไม่ถึง 3 เดือน หลังมีผู้ก่อการร้ายขับรถพุ่งชนคนที่หน้าอาคารรัฐสภา และแทงตำรวจเสียชีวิตในย่านเวสต์มินสเตอร์ ขณะเดียวกันคะแนนนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถดถอยลงนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โจมตีเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา และในขณะนี้คะแนนนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมร่วงลงอีก หลังจากเกิดเหตุโจมตีกรุงลอนดอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยผลการสำรวจของ ComRes รายงานว่า ขณะนี้คะแนนนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยมร่วงลงมาสูสีกับพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน อยู่ที่ 40% ต่อ 39% โดยคะแนนนิยมของนางเมย์ร่วงลงถึง 11% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ผลสำรวจของอังกฤษหลายสำนักจะฟันธงตรงกันว่า พรรคของนางเมย์จะเป็นผู้ที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา แต่นางเมย์ก็อาจจะไม่สามารถชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย.อย่างถล่มทลายอย่างที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่โพลล์บางสำนัก ระบุว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้อาจทำให้อังกฤษเผชิญกับภาวะชะงักงันทางการเมือง ก่อนที่อังกฤษจะเปิดฉากการเจรจาประเด็นแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มิ.ย. นี้ ทั้งนี้จึงเป็นที่น่าจับตาว่า ดัชนี FTSE 100 เปิดตลาดวันนี้อาจจะมีการปรับตัวลง หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย. ปิดที่ 7,547.63 จุด เพิ่มขึ้น 3.86 จุด หรือ +0.05% รับสถานการณ์ดังกล่าว