เหล็กท่อดำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (21 ตุลาคม 2564) ราคาหุ้นบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA โดยราคา ณ เวลา 14:58 น. อยู่ที่ระดับ 4.58 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 4.09% สูงสุดที่ระดับ 4.58 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.44 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55.31 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ (14 ต.ค.64) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 เดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 66.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +32.2% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น +62.8% เมื่อเทียบจากปีก่อน หากตัดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 2/2564 ออก คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น +23.9% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 62.8% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นสวนทางอุตสาหกรรมที่อยู่ในฤดูกาล Low Season และจากการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำสามารถทดแทนสินค้าประเภทเหล็กท่อดำ อีกทั้งการรุกทำตลาดออนไลน์ต่อเนื่อง รวมถึงการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งได้รับค่าแรกเข้า แม้ว่าต้นทุนเหล็กแผ่นรีดร้อนจะปรับสูงขึ้น แต่เชื่อว่าชดเชยได้จากปริมาณการขายที่สูงขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดีทำให้กำไรเติบโตได้ ดังนั้น หากเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิในเก้าเดือนแรกของปี 2564 จะโตก้าวกระโดด 85.4% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็น 147.3 ล้านบาท จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 18.9% ในเก้าเดือนแรกของปี 2563 คาดว่าน่าจะเป็น 27.1% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2564 ซึ่งดีกว่าที่คาด จึงปรับประมาณการกำไรปี 2564-2566 ขึ้น 11%/13%/11% เป็น 202.5 ล้านบาทในปี 2565 จากการรุกตลาดรีเทล ขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านระบบแฟรนไชส์ และขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโรงเรือนการเกษตรผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัทแพล้นโทโลยีซึ่งได้รับอนุญาตจาก อย. ในการนำเข้าเมล็ดกัญชง และคาดเติบโตเพิ่มขึ้น +5.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในปี 2566 คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 3 ปีข้างหน้าที่เพิ่มขึ้น +27.3% นับเป็นผู้ประกอบการเหล็กที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์และการทำตลาดรีเทล ช่วยลดความผันผวนของต้นทุนเหล็กแผ่นรีดร้อนได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ได้ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 5.40 บาท โดยอิง PE 17 เท่า เท่ากับ PE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีและใกล้เคียงกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และตังสมมติฐาน ZIGA-W1 ใช้สิทธิทั้งจำนวนที่เหลือ 126.8 ล้านหุ้น เนื่องจากในการใช้เงินค่อนข้างมากเพราะมีราคาใช้สิทธิ 1 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นปี 2565 เพิ่มขึ้น 20.7% เป็น 739.7 ล้านหุ้น กำไรปี 2565 ที่คาดเติบโต 13.8% เมื่อเทียบจากปีก่อน ชดเชยผลของการเพิ่มทุน ไม่หมด จึงคาดว่า EPS จะลดลง 5.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม ราคาเป้าหมายมีอัพไซด์กว่า 10% จึงคงคำแนะนำซื้อ