เอกภาวิน

นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด หรือ INVX เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (25 มี.ค. 67) มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยภาพเช้ายังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,400 จุด และประเมินทิศทางตลอดทั้งวันคาดว่าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ประกอบกับทิศทางเงินบาทอ่อนค่าจะเป็นลบต่อทิศทางของฟันด์โฟลว์ และมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญคือ GDP ไตรมาส 4/66 ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ดังนั้นมองว่าภาพยังถูกจำกัดอยู่โดยให้แนวต้านที่ระดับ 1,390-1395 จุด และมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 1,370-1,360 จุด ทั้งนี้ ทิศทางตลาดหุ้นไทยเชื่อว่ายังไม่สามารถผ่านระดับ 1,400 จุดไปได้ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนให้มีความต่อเนื่อง แม้สัปดาห์ก่อนจะทะยานขึ้นมาใกล้ระดับ 1,400 จุด เนื่องจากมีประเด็นของเฟด และคลายกังวลในเรื่องของตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ.ที่สูงกว่าคาด และในปีนี้เฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันจะปรับลดได้เมื่อไหร่ ตรงนี้จึงเป็นประเด็นที่ตลาดและนักลงทุนกังวลทำให้ตลาดขาดปัจจัยหนุน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นต่างๆ ต้องรอในเรื่องของงบประมาณปี 67 ที่จะเข้ามาในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. และต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนเม.ย.จะมีการลดดอกเบี้ยหรือไม่จึงทำให้การทะลุผ่านระดับ 1,400 จุด ยังเป็นไปได้ยาก และทำให้ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด สำหรับกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ 3 ธีมเด่นได้แก่ 1.ราคาน้ำมันรับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อาทิ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP และหุ้นโรงกลั่นอย่าง บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP 2.หุ้นได้ประโยชน์แนวโน้มดอกเบี้ยจะปรับตัวลง เลือกกลุ่ม ไฟแนนซ์อย่างหุ้น บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR และหุ้นโรงไฟฟ้า บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF 3.หุ้นที่เริ่มเห็น NVDR พลิกกลับมา Net Buy ในเดือน มี.ค.ซึ่งราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาดาวไซด์เริ่มจำกัด เลือก บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ส่วนกลยุทธ์การลงทุนตั้งแต่ระยะกลางขึ้นไปมอว่าตลาดดูนโยบายการเงินธนาคารกลาง โดยมองว่าภาพในครึ่งปีหลังตลาดจะเริ่มดีขึ้น จากการลดดอกเบี้ยคาดจะเห็นในครึ่งหลังของปีนี้ และเรื่องงบประมาณที่เข้ามา รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนจะมีการฟื้นตัวชัดเจนคาดจะช่วยให้หนุนผลการดำเนินงานบริษัทในตลาดหุ้นดีขึ้น เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับจีน ดังนั้นการปรับตัวลงช่วงนี้การลงทุนระยะกลาง-ยาวก็ถือเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานแกร่งในหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากการซื้อขายปัจจุบันเทรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ PE