เอสทีพีแอนด์ไอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 8 ก.ย. 2564 ณ เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีตัวแทนของผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท เอสทีพีแอนด์ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซิโนไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อเลขาธิการ (ก.ล.ต.) ผ่านนางสาวอุรสา บรรณกิจโศภณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. รับเรื่องและเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร้องเรียนว่าผู้บริหารของเครือซิโนไทยมีการกระทำไม่โปร่งใส โดยผ่านตัวแทนจาก นางน้ำทิพย์ วิชชุเกรียงไกร ผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัท STEC ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 22,700 คน พร้อมด้วย นายภาณุพงศ์ คุโณปการพันธ์ ผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัท STPI ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 11,400 คน ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมกัน หลังจากได้ยื่นหนังสือต่อเลขาธิการ ก.ล.ต. ว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 35,000 ราย ของทั้ง 2 บริษัทในเครือซิโนไทยส่อแววจะได้รับความเสียหายจากการการกระทำของคณะผู้บริหาร ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อย เปิดเผยโดยสรุปว่า ทั้ง STEC และ STPI เป็นกิจการเครือซิโนไทยด้วยกัน ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อปีที่แล้วทาง STEC แจ้งข้อมูลข่าวสารผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าได้มีมติเข้าซื้อกิจการบริษัทย่อยอีกบริษัทจาก STPI เป็นกิจการขายเครื่องจักรเครื่องมือรับเหมาก่อสร้าง โดยแจ้งว่าเมื่อซื้อมาแล้วจะส่งผลดีอย่างมากต่อผลการดำเนินงานของ STEC ทั้งลดต้นทุนลง และส่งผลให้มีกำไรก้าวกระโดด ทำให้ผู้ลงทุนรายย่อยหลงเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อกิจการและราคาหุ้น จึงได้ซื้อลงทุนไว้ ท้ายสุดเวลาก็ผ่านไปเกือบครบปีหลังจากมีมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 กลับปรากฏว่ายังไม่มีการลงนามซื้อขาย จนกระทั้งมีกระแสข่าวว่าอาจเป็นไปได้สูงที่จะมีการยกเลิกมติการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ดังนั้นพวกตนที่เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงน่าจะได้รับความเสียหายจากการเชื่อข้อมูลที่ STEC แจ้งมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วก็ไม่ปฏิบัติตามมติ ทั้งที่ที่ปรึกษาการเงินอิสระให้ผู้ถือหุ้นลงมติซื้อเพราะว่าจะหนุนให้กิจการเติบโต และจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ล่าสุดวันนี้ 9 ก.ย. 2564 ณ เวลา 08.00 น. ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยของ STEC และ STPI ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ดำเนินคดีผู้บริหารและบอร์ด STEC ฐานใช้ตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นแหล่งแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จกรณีซื้อขายหุ้น STIT สร้างผลเสียหายให้นักลงทุนรายย่อย นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ณ เวลา 09.00-12.00 ทางคณะกรรมการ STEC จะมีการประชุมที่อาคารซิโน-ไทย อโศก คาดว่าอาจมีมติยกเลิกดีลซื้อหุ้น STIT ตามที่นักลงทุนรายย่อยกำลังร้องเรียนต่อกลต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ