เอสโทเนีย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนักการทูตของสหภาพยุโรป (อียู) ประจำประเทศไทศไทย(อียู) สัญชาติเอสโทรเนีย ขอใช้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทเป็นสถานที่กักตัว 14 วัน ว่า ตนไม่อยากให้พูดกัน เดี๋ยวจะไม่เข้าใจว่าอะไรคือวีไอพีและอะไรไม่ใช่ เพราะเรามีมาตรการเฉพาะกิจ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของสถานทูตที่ต้องเข้มงวดในการเจรจาพูดคุยกัน เพราะสิ่งต่างๆ จะดีกับประเทศเราแน่นอน ในส่วนของกฎหมายของเรา แต่กฎหมายของต่างประเทศก็เป็นอีกแบบหนึ่ง หากเราเข้มงวดโดยที่เขาไม่เห็นด้วย ไม่เห็นชอบ เราก็จะโดนว่าด้วย ดังนั้นจึงต้องเจรจาต่อรองกัน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า มีบางกรณีที่ยังเป็นปัญหา ทั้งที่ขั้นตอนการขออนุญาตเข้าประเทศถูกต้องตามขั้นตอนหมด แต่ผิดพลาดเพราะไปพักในสถานที่ๆไม่ใช่ของรัฐ เพราะโรงแรมควบคุมไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลต้องหามาตรการแก้ไขต่อไป เพราะต้องควบคุมให้ได้ และโรงแรมที่จะเข้าไปพักต้องขึ้นบัญชีรายชื่อ และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปดูแล ซึ่งทั้งหมดยังเป็นข้อบกพร่องอยู่ นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ต้องมีมาตรการเฉพาะกลุ่ม ส่วนเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องของสถานทูต ซึ่งวันนี้จะต้องเข้มงวด เข้าไปเจรจาและพูดคุยว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำเป็นเรื่องดีกับประเทศไทย แต่กฎหมายของต่างประเทศอาจจะเป็นอีกอย่าง ซึ่งหากไปเข้มงวดโดยที่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย ก็จะส่งผลกลับมายังประเทศไทย ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้พูดคุยกับสถานทูตเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งคำว่าวีไอพีหากเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินมาในระยะสั้น เช่น ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ จะเห็นว่ามาตรการในการควบคุมผ่านไปด้วยความเรียบร้อย แต่มีบางกรณีที่ยังเป็นปัญหา ทั้งที่ขั้นตอนการขออนุญาตเข้าประเทศถูกต้องตามขั้นตอนหมด แต่ผิดพลาดเพราะไปพักในสถานที่ที่ไม่ใช่รัฐจัดให้ เพราะโรงแรมควบคุมไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลต้องหามาตรการแก้ไขต่อไป เพราะต้องควบคุมให้ได้ และโรงแรมที่จะเข้าไปพักต้องขึ้นบัญชีรายชื่อ และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปดูแล ซึ่งทั้งหมดยังเป็นข้อบกพร่องอยู่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ ศบค.จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนในประเทศ และหากไม่ร่วมมือกันและโทษกันไปมาก็จะแก้ไขปัญหาไม่ได้ อยากขอร้องอย่าไปเรียกแขกของรัฐบาลว่าเป็นวีไอพี แต่ให้เรียกว่า กลุ่มความสัมพันธ์ทางคณะทูต ซึ่งทั้งหมดที่เข้ามาต้องอยู่ในกรอบที่ไทยกำหนด พร้อมยอมรับอาจมีหลุดลอดไปบ้าง เพราะมีคนจำนวนมาก แต่ต้องเร่งแก้ไขทั้งหมด สำหรับมาตรการฟื้นฟูเยียวยาภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดระยองหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น ศบค.ชุดใหญ่จะเป็นผู้พิจารณาให้แน่นอน แต่จะเห็นว่าได้รับผลกระทบทุกจังหวัด แต่วันนี้มีเหตุการณ์ซ้อนขึ้นมาอีก รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้วยการตรวจโรค ซึ่งผลออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ