เฮลิคอปเตอร์ตก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15:00 น. ของวันที่ 28 ม.ค.68 ตามเวลาท้องถิ่นในสหราชอาณาจักร ศาลเมืองเลสเตอร์ มีคำตัดสินกรณีโศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ตก ที่สนาม “คิง พาวเวอร์” เมื่อ 6 ปีก่อน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ประกอบด้วย นายวิชัย ศรีวัฒนประภา หรือ เจ้าสัววิชัย อดีตประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง พาวเวอร์ ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีอากรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึง กัปตันเอริก สวอฟเฟอร์, อิสซาเบลลา เลโควิช, นุสรา สุขหน้าไม้, และกวีพร พรรณแพร โดยศาลได้ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดจากความบกพร่องในกระบวนการวิศวกรรมขั้นพื้นฐานของบริษัท เลโอนาร์โด ผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ลำที่เกิดเหตุ การพิจารณาคดี พบว่า เครื่องเฮลิคอปเตอร์มีข้อบกพร่องตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การทดสอบและการประเมินความเสี่ยง ที่ไม่ได้รับการแก้ไขตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องบินเกิดความล้มเหลวในระบบควบคุม จนทำให้เฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมและตกลงมา ขณะที่ รายงานการสอบสวนของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของอังกฤษ (AAIB) พบว่า สาเหตุหลักของอุบัติเหตุ คือ การล้มเหลวของลูกปืนคู่ในระบบใบพัดหางที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้เครื่องบินเสียการควบคุมในอากาศและตกลงมายังพื้นดินจนเกิดการระเบิดและไฟลุกไหม้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นำไปสู่อุบัติเหตุสุดสลดนี้ ครอบครัวศรีวัฒนประภา ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 2 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 90,000 ล้านบาท โดยระบุว่า ผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ละเลยการออกแบบและการป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน จนเกิดอุบัติเหตุที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในรายงานของ AAIB เมื่อเดือนกันยายน ปี 2566 ที่มีความยาวถึง 209 หน้า ระบุถึงปัญหาของระบบความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ที่ไม่ได้รับการแก้ไข มีตลับลูกปืนอีก 3 ชิ้นอยู่ในสภาพที่คล้ายกัน ซึ่งกำลังจะเสียหาย และหมดอายุการใช้งาน ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดมาก อย่างไรก็ตาม จากผลการสอบสวน เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี และผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน แต่การออกแบบของเครื่องบินทำให้เกิดข้อบกพร่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงนี้ ด้านนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา บุตรชายของ “เจ้าสัววิชัย” กล่าวหลังจากศาลตัดสินว่า “เครื่องเฮลิคอปเตอร์ที่พ่อของผมใช้ มีความน่าเชื่อถือในตอนแรก แต่การออกแบบที่ผิดพลาดของผู้ผลิตทำให้เกิดอุบัติเหตุอันร้ายแรงนี้ ผมเชื่อว่าผู้ผลิตต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้”