แกนนำของผู้นำทางความคิด

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (19 พ.ย.67) อ้างอิง สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจาก เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน ว่า ศาลแขวงเกาลูน มีคำพิพากษาเมื่อวันอังคาร ถึงจำเลย 45 คน มีความผิดจริงฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ฉบับบัญญัติโดยสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ของจีน เมื่อปี 63 ด้วยการพยายามโค่นล้มอำนาจรัฐ โดยก่อนหน้านี้ อัยการฮ่องกง สั่งฟ้องจำเลยทั้งสิ้น 47 คน เมื่อปี 64 จากการจัดกิจกรรม “เลือกตั้งไพรมารีอย่างไม่เป็นทางการ” เมื่อปี 63 ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติซึ่งภาครัฐเป็นผู้จัดตามกฎหมาย ซึ่งกลุ่มนักเคลื่อนไหวมีเป้าหมายว่าประชาชนที่ร่วมใช้สิทธิ ซึ่งมีมากถึง 600,000 คน จะลงคะแนนให้กับผู้สมัครของฝ่ายค้าน ซึ่งต่อต้านขั้วอำนาจเก่า เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรและครองเสียงข้างมากในสภา กดดันให้คณะผู้บริหารฮ่องกงยอมรับเงื่อนไขจากการประท้วงครั้งใหญ่ เมื่อปี 62 ขณะที่ ศาลวินิจฉัยว่า กิจกรรมดังกล่าวจะนำไปสู่วิกฤติรัฐธรรมนูญอันจะเป็นบ่อเกิดของการแทรกแซง การรบกวน และการก้าวก่ายกระบวนการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ยกฟ้องจำเลย 2 คน เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยที่เหลือรับโทษจำคุกมากน้อยลดหลั่นกันไป ระหว่าง 50 เดือน ถึง 10 ปี โดย นายเบนนี ไท่ นักวิชาการรับโทษจำคุกเป็นเวลานานที่สุด อยู่ที่ 10 ปีจากการเป็นแกนนำของผู้นำทางความคิด รองลงมา คือ นายโอเวน โจว รับโทษจำคุกเป็นเวลา 7 ปีกับอีก 9 เดือน เนื่องจากมีบทบาทเชิงรุกมากที่สุดในบรรดานักเคลื่อนไหวทั้งหมด ส่วน นายโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชื่อดังวัย 28 ปี ซึ่งอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ปลายปี 63 และรอการไต่สวนหลายคดีได้รับโทษจำคุก 4 ปี กับอีก 8 เดือน