แต่งตั้ง CEO SICT

บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง ดร.บดินทร์ เกษมเศรษฐ์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ด้าน นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ผู้ก่อตั้ง SICT กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศว่า ดร.บดินทร์ ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ซึ่งผมเชื่อว่านักลงทุน ผู้ถือหุ้น รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัทก็ได้เห็นฝีมือและผลงานของ ดร.บดินทร์ ในหนึ่งปีที่ผ่านมาในฐานะ Deputy CEO และ Co-CEO เป็นที่ประจักษ์แล้ว ทั้งการเติบโตธุรกิจ การดำเนินงานอย่างมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจของบริษัท รวมถึงประสบการณ์มากมายในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในหลากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ ดร.บดินทร์ นำมาผลักดันธุรกิจของบริษัทให้เติบโตแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน พร้อมที่จะแข่งขันกับบริษัทระดับโลกได้ โดยในส่วนของตนจะยังคงดูแลในฐานะประธานกรรมการบริษัท และพร้อมให้ความเห็นและคำปรึกษาแก่ฝ่ายจัดการในทุกด้าน เพื่อให้บริษัทที่เติบโตพร้อมกับผมมา 20 ปี จนปัจจุบันเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ mai รายแรกและรายเดียวในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ต้นน้ำในประเทศไทย อย่างบริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ไปให้ไกลที่สุด ด้วยทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่มีความสามารถและมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งพร้อมจะขับเคลื่อนธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ในโลกแห่งนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่ง สำหรับ ดร.บดินทร์ เกษมเศรษฐ์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์ และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี สาขาวิชา Microsystem Technology ได้เคยร่วมงานกับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง NXP Semiconductors มาเกือบ 15 ปี ทั้งในประเทศเยอรมัน ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปปินส์และประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงรับผิดชอบดูแลตั้งแต่เรื่องการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี Project Management และการจัดการผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม SICT มุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เพื่อขับเคลื่อนโลกแห่งอนาคตที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมทั้งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวด้วยไมโครชิฟอัจฉริยะที่จะผลักดันนวัตกรรมในด้านต่างๆ อาทิ Smart Farm, อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยสำหรับรถยนต์ในอนาคต E-commerce นวัตกรรมดิจิตอลเพื่อสุขภาพ ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติที่ใช้ IoT ขับเคลื่อน เป็นต้น