แบรนด์เจเล่

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567) มีรายได้รวม 1,457.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท หรือ 2.30% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,427.38 โดยมีกำไรสุทธิ 157.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท หรือ 2.30% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 154.01 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนยอดขายในประเทศและต่างประเทศโตต่อเนื่อง มาจากสินค้าหลักอย่าง “เจเล่” และ “เบนโตะ” รวมถึงการออกสินค้าใหม่สู่ตลาดช่วงต้นปี ซึ่งได้แก่ Jele Fresshy กลิ่นแตงโม ,โลตัสหนังไก่กรอบ” 2 รสชาติใหม่ “รสลาบ และ รสไก่ทอดสไตล์หาดใหญ่” ,เบนโตะ แมกซ์ 3 รสชาติใหม่ “ทรงเครื่อง-ปรุงรส-ลาบ” และเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Supplementary) ภายใต้แบรนด์ ”เจเล่ฟิตต์” (Jele Fitt) ในรูปแบบเยลลี่รสผลไม้ ช่วยสร้างความคึกคักได้เป็นอย่างมาก และสนับสนุนยอดขายให้เติบโตได้เป็นอย่างดี ขณะที่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจยังไม่เอื้ออำนวย บริษัทฯก็ยังมั่นใจว่า แนวโน้มยอดขายสินค้าจะเพิ่มขึ้น จากภาคการท่องเที่ยวที่คึกคักเป็นอย่างมากในช่วงวันสงกรานต์ รวมถึง SNNP ยังเปิดเกมการตลาดหน้าร้อนด้วย เจเล่บิวตี้ 2 รสชาติใหม่ “สูตรไฟเบอร์-รสชาหมักคอมบูฉะ” และเมจิก ฟาร์ม เฟรช 2 รสชาติใหม่ “น้ำมะพร้าว” และ “ชาเขียวกลิ่นน้ำผึ้งมะนาว” ดับกระหายคลายร้อน สร้างกระแสความคึกคัก กระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ SNNP ยังมีแนวทางในการขยายตลาดในต่างประเทศ ซึ่งรูปแบบการทำตลาดต่างประเทศนั้น เป็นทั้งรูปแบบการส่งสินค้าไปขาย และการร่วมการทำตลาดในประเทศดังกล่าว การแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวเพิ่มเติม ส่วนแผนการสื่อสารการตลาด บริษัทฯวางแผนปูพรมสื่อสารทุกช่องทาง โดยมุ่งการสื่อสารทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นหนังโฆษณาและ KOL / influencer การสนับสนุนผ่านกิจกรรมคอนเสิร์ต รวมไปถึงการจัดโรดโชว์แจกสินค้าตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค และสร้างความจดจำให้ได้มากที่สุด “สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2567 นี้ SNNP เดินหน้าสร้างการรับรู้ และสร้างการกระตุ้นการบริโภคของสินค้า รวมถึงการออกสินค้าใหม่ๆ ทั้งเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯยังวางแผนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศเวียดนามที่เป็นประเทศหลัก ซึ่งยังมองเห็นโอกาสในการทำตลาดในประเทศอื่น เช่น ฟิลิปปินส์, เกาหลี และจีน เป็นต้น ทำให้มั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแผนธุรกิจที่วางไว้” นายวิโรจน์ กล่าวในที่สุด ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น SNNP ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท อัพไซด์ 44% คาดว่ากำไรของ SNNP จะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป เนื่องจากการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามและโรงงานผลิตในเวียดนามแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2567 จะช่วยหนุนรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นได้ โดยประเมินกำไรปี 2567 อยู่ที่ 777 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 105 bps จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 29.6% โดยได้รับแรงหนุนจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น ยอดขายในเวียดนามเติบโตได้ดี และประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น เราคาดการณ์รายได้เติบโต 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายในประเทศและต่างประเทศที่ 8% และ 13% ตามลำดับ การดำเนินงานทั้งปีของโรงงานในเวียดนามจะขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ โดยเราคาดว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 28% สู่ระดับ 1 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 15.3% ของยอดขายในปี 2567 เทียบกับ 13% ในปี 2566