แป้งมันปะหลัง

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง รวมถึงผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่าบริษัทยังคงเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตามแผนเพราะเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของธุรกิจอาหารในระยะยาว โดยช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ วุ้นเส้นคัพรสก๋วยจั๊บญวนภายใต้แบรนด์ “มังกรคู่” รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มวุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยวอีกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 5 SKU พร้อมขายภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งในส่วนของวุ้นเส้นคัพพร้อมรับประทานพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้มียอดขายได้แตะระดับ 20 ล้านถ้วยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา และบริษัทวางแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง “ขณะที่ธุรกิจอาหารของไทยวายังคงเติบโตจากการขยายช่องทางการขายและการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมั่นใจว่ากระแสตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์โดยรวมทั้งในและต่างประเทศกลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจนจะสนับสนุนให้ยอดขายมีทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้บริษัทคาดว่าสินค้าใหม่ที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังช่วยสนับสนุนยอดขายและรายได้ทั้งปีให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายโฮ เรน กล่าว ทั้งนี้ จากการที่บริษัทมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมเกษตร-อาหาร เพื่อขับเคลื่อนตลาดโลกอย่างยั่งยืนโดยได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง อาทิ แป้งดัดแปลงและแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบมาจากหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ให้บริการลูกค้าในประเทศต่างๆ รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกและถือเป็นบริษัทอาหารที่ติดอันดับ Fortune 500 ที่สำคัญเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชล้วนๆ จากฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภคจนได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ Breakthrough innovation ระดับ Southeast Asia จาก สถาบัน Nielsen IQ ถือเป็นความภาคภูมิสำหรับองค์กรเป็นอย่างมาก โดยนายโฮ เรน ฮวา กล่าวว่า บริษัทยังคงรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทยที่สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกช่องทางการขายที่สำคัญซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ยอดขายรวมจากธุรกิจอาหารมีจำนวน 1,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 86% ขณะที่ยอดขายจากการส่งออกไปขายในต่างประเทศอยู่ที่ 14 ของยอดขายจากธุรกิจอาหารทั้งหมด โดยในปี 2566 คาดการณ์ว่ายอดขายกลุ่มธุรกิจอาหาร ยังสามารถรักษาระดับยอดขายเติบโตได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความคืบหน้าโรงงานผลิตแป้งมันปะหลังแห่งใหม่ที่ประเทศกัมพูชาอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในช่วงเดือนมกราคมปี 2567 ซึ่งโรงงานที่กัมพูชาจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงด้านแหล่งวัตถุดิบ และสร้างการเพิ่มผลผลิตเพื่อรองรับความต้องการ ROSE Brand ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง