แพ็กเกจภาษีรถ EV

ส่งท้ายปีฉลู..ก้าวเข้าสู่ปีเสือ เกิดปรากฏการณ์ประโคมโหมโรงกันอย่างหนัก ว่าด้วยเรื่อง “รถ EV (Electric Vehicle)” กับแคมเปญใหญ่ ไฮไลต์อยู่ที่แพ็กเกจ “ลดภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากร” ที่ว่ากันว่ารัฐบาลมีกรอบวงเงินไว้ 40,000 ล้านบาท เพื่อจูงใจให้ประชาชนคนไทยหันมาใช้รถ EV ช่วง 5 ปี (ปี 2565-2569) อยู่ที่ประมาณ 300,000 คัน นั่นทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องและกำลังเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศรถ EV ถูกหยิบขึ้นมาเก็งกำไรกันหนาแน่น “ผิดหูผิดตา” ด้วยความหวังว่ากระทรวงการคลัง จะนำแพ็กเกจ “ลดภาษีสรรพสามิต-ศุลกากร” เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เป็นของขวัญปีใหม่ เมื่อช่วงโค้งสุดท้ายปีที่ผ่านมา แต่ทว่า..สุดท้ายแพ็กเกจภาษีรถ EV ดังกล่าว..เงียบหายไร้วี่แวว การนำเสนอเข้าครม.แต่อย่างใด.!? มีรายงานข่าวว่า “แพ็กเกจลดภาษีรถ EV” มีการจัดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกรถ EV ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะได้ รับการลดภาษีศุลกากร 40% และลดภาษีสรรพสามิตเหลือเพียง 2% พร้อมเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอีกคันละ 150,000 บาท และกลุ่มรถ EV ราคาเกินกว่า 2 ล้านบาท กลุ่มนี้จะไม่ได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล แต่จะได้รับการลดอัตราภาษีศุลกากร 40% และลดอัตราภาษีสรรพสามิตอีก 2% นอกเหนือจาก “แพ็กเกจลดภาษีแถมเงิน” แล้ว ฝั่งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) มีการจัดทำหลักเกณฑ์เงื่อนไขมาตรการต่าง ๆ เป็นแพ็กเกจส่งเสริมการใช้รถ EV ด้วยเช่นกัน แต่สุดท้าย “แพ็กเกจส่งเสริมการใช้รถ EV” จากบอร์ด EV ไม่ถูกนำเข้าที่ประชุมครม.ช่วงก่อนสิ้นปีอีกเช่นกัน..!? “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า แพ็กเกจมาตรการส่งเสริมการใช้รถ EV ในประเทศไทยและส่งเสริมการลงทุน EV Charging Station และเร่งพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการขยายตัวการใช้รถ EV จะสามารถประกาศได้ช่วงต้นปีนี้ “ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเตรียมข้อมูลหลายด้าน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาช่วงต้นปีนี้ต่อไป” ปมเหตุโรคเลื่อนข้ามปี.!เรื่องนำแพ็กเกจลดภาษีและส่งเสริมรถ EV เข้าครม.ถูกตั้งข้อสังเกต และหยิบยกขึ้นวิพากษ์ในวงกว้างว่า..แท้จริงแล้วมีเบื้องหน้าเบื้องหลังซ่อนอยู่หรือไม่..!? มีข่าวหนาหู ช่วงส่งท้ายปีที่ผ่านมาว่า..มีค่ายรถยนต์ดัง มีการยื่นเรียกร้องไปยังกระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน (ผ่านทางบอร์ด EV) ขอให้ทบทวนเงื่อนไขและขอให้เลื่อนนำแพ็กเกจเข้าสู่ที่ประชุมครม.ไปก่อน เนื่องจากเห็นว่าจะกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปเดิม ในตลาดระดับกลางและล่างได้ เพราะด้วยแพ็กเกจดังกล่าว จะทำให้ราคารถ EV ใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปเดิม..ปัญหาที่ตามมาคือผู้ประกอบการรถยนต์เซกเมนต์นี้ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นหมายถึงจะเกิดปรากฏการณ์ “ได้ใหม่..ลืมเก่า” ตามมาหรือไม่นั่นเอง คำถามที่ตามมาคือ..ค่ายรถยนต์ในตลาดกลางและล่าง มีสายการผลิตรถ EV พร้อมจะรองรับหรือไม่..ที่สำคัญสายการผลิตรถยนต์สันดาปเดิมที่ค้างท่ออยู่จะทำอย่างไร แหละนี่คือ..สารตั้งต้นและปูมเหตุที่ทำให้แพ็กเกจลดภาษีและส่งเสริมรถ EV มีอันต้องเจอโรคเลื่อนข้ามปีใช่หรือไม่..หรืออาจมีละครหลังฉากอะไรหรือเปล่า..อันนี้ก็ไม่รู้ซินะ..!??